น้ำกัดเซาะตลิ่งลำตะโคง บ้านตะแบง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ที่พึ่งสร้างเมื่อปี 60 พังทลาย และเกิดรอยแยกเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร ชาวบ้าน 8 ครัวเรือนที่อาศัยริมตลิ่งต้องอยู่อย่างหวาดผวาหวั่นตัวบ้านทรุดพัง เสี่ยงอันตราย วอนหน่วยงานภาครัฐเร่งซ่อมแซมแก้ไขชี้ควรสร้างให้มั่นคงถาวร ผู้ใหญ่บ้านรุดตรวจสอบรายงานอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้(14 ก.ย.62) ชาวบ้านบ้านตะแบง ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 8 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่ติดริมน้ำลำตะโคง กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนัก หลังเกิดน้ำกัดเซาะตลิ่งที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณก่อสร้าง ในโครงการอาคารป้องกันตลิ่งลำตะโคงบ้านตะแบง หรือ (เขื่อนกันน้ำเซาะ) ระยะที่ 1 ซึ่งก่อสร้างเมื่อปี 2560 พังทลายความยาวกว่า 50 เมตร และยังเกิดรอยแยกตลอดแนวตลิ่งเป็นทางยาวอีกเกือบ 50 เมตร ซึ่งคาดว่าหากมีน้ำหลากมาซ้ำอีก ก็จะทำให้ตลิ่งพังทลายเป็นบริเวณกว้างมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบทำให้ตัวบ้านทรุดพังเสียหาย ซึ่งก็จะเสี่ยงอันตรายกับผู้ที่อาศัยอยู่เพราะตอนนี้ตลิ่งมีโอกาสจะพังทลายได้ตลอดเวลา ชาวบ้านจึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งเข้ามาสำรวจซ่อมแซม หรือก่อสร้างตลิ่งกันพังใหม่ให้แข็งแรงถาวรกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพังทลายอีก น.ส.ฉวีวรรณ แก่นอินทร์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านบ้านตะแบง บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองและคนในบ้านทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชราอาศัยอยู่ในบ้านรวมกัน 7 คน ไม่มีใครรู้ตัวว่าตลิ่งจะพังทลาย กระทั่งมีชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นตะโกนบอกว่าตลิ่งพัง จึงรีบวิ่งออกมาดูเมื่อเห็นสภาพตลิ่งที่พังทลายจนถึงตัวบ้านด้านหลังก็ตกใจมาก หลังจากนั้นก็อยู่อย่างหวาดระแวงเพราะไม่รู้วันไหนบ้านจะทรุดพังลง ซึ่งครอบครัวตนอาศัยอยู่บริเวณนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว เดิมเป็นพนังดินธรรมดาและมีต้นไม้ตลอดฝั่ง แต่ช่วงหน้าฝนที่มีน้ำไหลหลากก็จะทำให้พนังเกิดการดินสไลด์ทุกปี กระทั่งทางผู้นำชุมชนได้เสนอของบก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งพังเมื่อปี 2560 ต่อเนื่องถึงปี 2562 รวมระยะทางยาว 600 เมตร แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ยังเกิดปัญหาตลิ่งพังทลายอีก จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสำรวจซ่อมแซมตลิ่งที่พังโดยเร็วด้วย หากเป็นไปได้ก็อยากให้ทำแบบที่มั่นคงแข็งแรงและถาวรมากกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตลิ่งพังซ้ำอีก เพราะช่วงน้ำหลากทุกปีชาวบ้านต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา บางครั้งที่น้ำไหลแรงต้องพากันย้ายไปอาศัยบ้านญาติ เพราะกลัวบ้านจะทรุดพังทำให้ได้รับอันตราย ด้านนายสมาน กมลพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านตะแบง บอกว่า หลังจากเกิดพายุฝนกระหน่ำในช่วง 2สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้ระดับน้ำในลำตะโคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและกระแสน้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนทำให้ตลิ่งที่ก่อสร้างเมื่อปี 2560 พังทลายลงและเกิดรอยแยกเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร บางช่วงเกือบถึงตัวบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยริมตลิ่ง 8 ครัวเรือน แต่ที่เสี่ยงจะทรุดตัวประมาณ 6 ครัวเรือน ตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ต้องอยู่ตามสภาพ และเฝ้าระวังกันเอง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นก็ได้รายงานให้ทางอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว และก็มีเจ้าหน้าที่ชลประทานออกมาดูพื้นที่และรับปากจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้อย่างเร่งด่วน ซึ่งหากเป็นไปได้ก็อยากให้ทำให้แบบแข็งแรงถาวรกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำอีก