พ่อเมืองโคราช หารือ อธิการบดีราชภัฏ ถอดบทเรียนปมดราม่าภาพวาด “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” พร้อมช่วยเหลือนักศึกษาด้านกฎหมาย ความคืบหน้ากรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผลงานภาพวาดศิลปะ”พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” ของนักศึกษา สาขาศิลปศึกษา ชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายมีความคิดเห็นทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ถกเถียงกันจนกลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อช่วงสายวันที่ 13 กันยายน ที่ห้องรับรองสำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ผศ.ดร. อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมด้วยผศ.ดร.ธวัช ตราชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รวมทั้งคณาอาจารย์เข้าหารือ กับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสวงหาทางออกพร้อมถอดบทเรียนกรณีผลงานภาพวาดที่เป็นปมปัญหา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เผยว่า ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดเองเป็นตัวกลางในการนำมหาวิทยาลัยราชภัฏฯ สำนักพุทธศาสนาฯ วัฒนธรรมจังหวัดไปพบเจ้าคณะจังหวัดฯ ซึ่งพูดคุยกันแล้วว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งอาจจะไปกระทบความรู้สึกคนอื่น ซึ่งนักศึกษาเจ้าของผลงานก็ได้แสดงความรู้สึกเสียใจแล้วก็ขอโทษ ก็คิดว่าน่าจะจบและยุติได้แล้ว และไม่ควรจะไปต่อความให้มันยาว ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดกระแสในสังคม และคนที่น่าสงสารที่สุดตัวเด็กที่เป็นเจ้าของผลงานจะได้รับผลกระทบที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น"เด็กขอโทษแล้ว ก็คิดว่าน่าจะจบได้แล้ว ไม่ควรไปต่อความให้ยาว เมื่อเกิดกระแสในสังคมคนที่น่าสงสารที่สุดคือเด็กที่เป็นเจ้าของผลงาน ในใจของผมคิดว่า น่าจะจบกันได้แล้ว เด็กก็ไม่ได้ตั้งใจ วาดไปตามจินตนาการ เด็กก็ทำไปตามแนวความคิดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้นเอง ต่อไปเรื่องนี้จะเป็นข้อคิดให้สังคม ต่อไปจะทำอะไรก็ต้องคิดให้มากขึ้น จินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์ก็มี แต่ก็ต้องคิดถึงความรู้สึกของคนในสังคมด้วยว่าจะรู้สึกอย่างไร เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญของสังคมไทย" ส่วนกรณีที่มีการไปแจ้งความกองปราบฯ เอาผิดกับนักศึกษาเจ้าของผลงาน และคณาจารย์ที่เกี่ยวข้อง นายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า เรายินดีให้การช่วยเหลือในเรื่องคดีตามกระบวนการของกฎหมาย สำหรับที่มีเฟสบุ๊ก “ปกรณ์ พรชีวางกูร" นำภาพวาดพระพุทธรูปอุลตร้าแมน ออกประมูลปรากฏว่าได้มูลค่าสูงถึง 600,000 บาท ระบุเพื่อนำรายได้จัดหาเครื่องมือแพทย์ให้ รพ.ด่านขุนทดฯ นั้น ถือเป็นเจตนารมณ์ที่ดี ที่จะช่วยที่โรงพยาบาลตามที่บอกก็ขออนุโมทนาด้วย แต่บางคนอาจจะมีความคิดเห็นว่าฉวยโอกาสโหนกระแสในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามขอให้เป็นบทเรียนให้คนในสังคม การคิดจะทำสิ่งใดนั้นมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สุดท้ายแล้วมันต้องไตร่ตรองให้ดีศึกษาข้อมูลให้รอบด้านเสียก่อนเพื่อมิให้เกิดผลกระทบตามมา ด้าน ผศ.ดร.อดิศร เนาว์นนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขอชี้แจงให้สังคมรับทราบใน 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ เรื่องของภาพวาดพระพุทธรูปที่ปรากฏสู่สายตา ประชาชน สร้างความไม่สบายใจให้กับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ดังนั้นหลังจากเหตุการณ์นี้ทางมหาวิทยาลัยฯได้มีการทบทวน ชี้แจงให้นักศึกษา และคณาจารย์ทุกคนทราบว่า ก่อนที่จะวาดภาพ หรือสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบตามมาภายหลัง ขอยืนยันมหาวิทยาลัยไม่เจตนาบังคับหรือตีกรอบแต่อย่างใดพร้อมส่งเสริมให้มีอิสระทางความคิดผลงานที่สร้างสรรค์ต่อไป แต่ต้องระมัดระวังผลงานที่เกี่ยวกับความอ่อนไหวทางสังคม โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ 3 สถาบันหลัก มหาวิทยาลัยในฐานะเป็นต้นสังกัด ซึ่งต้องดูแลนักศึกษา ไม่ว่านักศึกษาจะกระทำเหมาะสมหรือไม่ ก็ต้องมีการ เรียกมาว่ากล่าวตักเตือนให้ได้เรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ ซึ่งตนได้สอบถามตัวนักศึกษาเจ้าของผลงานแล้วขณะนี้ก็มีกำลังใจดี ประเด็นที่ 2 เรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วน เริ่มตั้งแต่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัด นครราชสีมา ที่ได้นานักศึกษา พร้อมทั้งคณาจารย์ไปพบเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ตนก็ต้องขอชื่นชมว่าทำถูกต้องแล้ว และไม่ได้เป็นการไปขอขมาเพื่อยอมรับความผิด เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจให้กับ ชาวพุทธในวงกว้าง ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฯจึงจำเป็นต้องนำผู้ที่เกี่ยวข้องไปพูดคุยชี้แจงกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ใน จังหวัด ตามหลักการปกครอง ส่วนกรณีมีกลุ่มชาวพุทธไปฟ้องกองปราบปราม เพื่อให้เนินคดีกับนักศึกษา อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตนเคารพในการดำเนินการดังกล่าว เพราะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ เพราะความหวังดีต่อพระพุทธศาสนา หากท่านเหล่านั้นมาติดต่อขอพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน ตนก็ยินดีพูดคุยและรับฟังทุกอย่าง