บุรีรัมย์ครูแฉการเงินหักงบอาหารกลางวันเด็กเดือนละ 4,800 ไปส่งงวดรถ ซ้ำถูกกดดันให้ลาออก ขณะครูการเงินที่ถูกกล่าวหายันไม่เป็นความจริงมีเอกสารหลักฐานเบิกจ่ายถูกต้องครบถ้วน พร้อมให้ตรวจสอบ ด้าน ผอ.ชี้เป็นความไม่เข้าใจกันของครูใน ร.ร.ไม่ได้มีการทุจริตตามที่เป็นข่าว (13 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า ครูการเงินในโรงเรียนหักเงินอาหารกลางวันเด็กที่ได้รับการอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น​ หัวละ 20 บาท ไปจ่ายค่างวดรถ แล้วปล่อยให้เด็กกินแบบอดๆ อยากๆ จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการสอบถามคุณครูคนดังกล่าว ก็ให้ข้อมูลว่า ครูในโรงเรียนมีน้อยจึงต้องหมุนเวียนกันรับผิดชอบดูแลเรื่องอาหารกลางวันเด็กนักเรียน แต่ระยะหลังช่วงที่ตนเองเข้าเวรทำอาหารกลางวัน ก็ไปเบิกเงินกับครูที่รับผิดชอบเรื่องการเงินของโรงเรียน แต่กลับไม่ได้รับครบตามจำนวน จึงไปสอบถามว่าเงินอาหารกลางวันเด็กหายไปไหน​ เดือนละ 4,800 บาท กลับถูกต่อว่าและถูกกดดันให้ลาออก และยังพยายามกล่าวหาว่าช่วงที่ตนเองดูแลเรื่องอาหารกลางวันเด็ก กินเงินอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน ทำให้เกิดความไม่พอใจจึงออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะต้องการปกป้องเด็กนักเรียน และศักดิ์ศรีของตัวเอง คุณครูคนดังกล่าว ยังบอกด้วยว่า ตนสอนที่โรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทั้งการสอนหนังสือ และการได้มอบหมายให้รับผิดชอบเรื่องอาหารกลางวัน ซึ่งจะมีงบเฉลี่ยเดือนละ 21,000 บาท ก็นำไปจัดซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารให้เด็กรับประทานแบบเต็มอิ่ม บางวันก็เหลือ แต่ช่วงหลังตนได้ขอเบิกเงินค่าอาหารกลางวันกับครูการเงิน แต่ได้เงินมาไม่ครบหายไป 4,800 บาท ก็อยากให้มีการตรวจสอบว่าเงินหายไปจริงหรือไม่ หากผลสอบออกมาเป็นอย่างไรตนก็พร้อมยอมรับ ยืนยันว่าไม่ได้เจตนนาจะกล่าวหาใคร แต่ในเมื่อตนเองถูกปักปำก่อนและถูกกดดันจึงจำเป็นต้องออกมาเปิดเผย ด้านคุณครูชำนาญการพิเศษ​ ที่รับผิดชอบเรื่องการเงินโรงเรียน ก็ออกมายืนยันว่า ตนเองได้เบิกจ่ายงบอาหารกลางอย่างถูกต้องมีเอกสารหลักฐานชัดเจน พร้อมให้ตรวจสอบทั้งปัจจุบันและย้อนหลัง ทั้งยืนยันว่าไม่เคยหักเงินค่าอาหารกลางวันเด็กไปจ่ายค่างวดรถตามที่ถูกกล่าวหา และไม่ได้กดดันให้คุณครูท่านนั้นลาออก แต่ยอมรับว่าอาจจะมีความไม่เข้าใจกันบ้างตามปกติคนที่ทำงานร่วมกัน แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายขนาดนี้ ก็อยากขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย เพราะกรณีที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองและโรงเรียนเสียหาย ส่วนเรื่องคุณภาพ และปริมาณอาหารกลางวันเด็ก ก็พร้อมให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานมาตรวจสอบได้ หรือจะสุ่มมาก็ได้ มั่นใจในความบริสุทธิ์ ทางด้านผอ.โรงเรียนฯ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่จากการสอบถามก็ทราบว่าเป็นเรื่องที่สื่อสารกันไม่เข้าใจระหว่างครูในโรงเรียนเอง ส่วนเรื่องอาหารกลางวันตนเองก็ตรวจสอบเป็นประจำ ยืนยันว่ามีคุณภาพ และปริมาณเต็มอิ่ม โดยแต่ละวันจะมีข้าวเปล่า กับข้าว 1 อย่าง แต่หากเด็กคนไหนกินไม่อิ่มก็สามารถเติมได้ นอกจากนั้นยังมีขนมหวาน หรือผลไม้ตามฤดูกาลในทุกมื้อด้วย แต่จากปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะหาแนวทางแก้ไขเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน และเด็กนักเรียน รวมถึงเรื่องอาหารกลางวันของเด็กด้วย ส่วนเรื่องการตรวจสอบก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ