สภาฯ ลงมติเอกฉันท์ เลื่อนญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน ขึ้นมาพิจารณาเร็วขึ้น แต่ไม่ทันสมัยประชุมนี้ วันที่ 13 ก.ย. ที่รัฐสภา เกียกกาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม หลังจากสมาชิกสภาฯ หารือในห้องประชุมถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน และเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ใช้สิทธิ์ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อที่ 54 (2) ขอเลื่อนญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ที่ฝ่ายค้านเสนอ ขึ้นมาพิจารณาก่อน นายชวน ชี้แจงว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษวันนี้ เป็นเจตนาเพื่อสะสางญัตติด่วนอยู่ 23 วาระ ที่ค้างอยู่ตั้งแต่เดือนละก.ค. จากระเบียบวาระทั้งหมด 117 ระเบียบวาระ โดยมีเรื่องสำคัญคือญัตติด่วนเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง- สุวรรณภูมิ- อู่ตะเภา) และการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC และการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม ซึ่งก่อให้เกิดสารพิษตกค้างเป็นอันตรายแก่เกษตรกรและผู้บริโภค นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายหารือสนับสนุนแนวทางของประธานสภาฯ และเห็นควรให้พิจารณาญัตติด่วนตามระเบียบวาระ และอยากให้มีการหารือปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ซึ่งนายชวน ก็เห็นด้วยว่า หากมีการพิจารณาเรื่อง EEC และสารเคมีในภาคเกษตรกรรมเสร็จสิ้นแล้ว ก็ควรหารือถึงการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน จากนั้นนายสมพงษ์ ชี้แจงว่า การขอให้เลื่อนญัตติของฝ่ายค้าน ไม่ใช่การขอให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาเป็นอันดับแรก แต่ขอให้อยู่ต่อจากญัตติด่วนที่ 6 เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่า วิปทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีความสรุปร่วมกันว่าควรจะเลื่อนขึ้นเป็นญัตติต่อจากญัตติด่วนที่ 6 ซึ่งเข้าใจว่าการประชุมวันนี้จะใช้เวลาไปกับการอภิปรายเกี่ยวกับ EEC และการใช้สารเคมีภาคการเกษตร หากมีเวลาเหลือ อาจจะมีการหารือถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนปิดการประชุมเวลา 18.00 น.วันนี้ จึงเป็นไปได้สูงว่าจะไม่มีการพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงขอเลื่อนขึ้นมาต่อจากญัตติที่ 6 เพื่อที่จะได้เป็นญัตติแรกๆ ในสมัยประชุมหน้า โดยนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ก็ยอมให้มีการเลือกขึ้นมาต่อจากญัตติด่วนที่ 6 ตามที่ฝ่ายค้านเสนอมา ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในลักษณะเดียวกัน ก็ขอให้มีการเลื่อนญัตติขึ้นมาไว้ในกลุ่มเดียวกันกับญัตติของฝ่ายค้าน หากมีการเลื่อนขึ้นมาต่อท้ายญัตติด่วนที่ 6 จนในที่สุด นายชวน ได้ลงมติที่ประชุมโดยมีมติเอกฉันท์ 425 ต่อ 0 เสียง เลื่อนญัตติด่วนที่ 7 ขึ้นมาต่อท้ายญัตติด่วนที่ 6 ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบการกระทำของ คสช. ซึ่งคาดว่าจะเป็นญัตติอันดับแรกๆ ที่จะได้พิจารณาในการประชุมสภา สมัยประชุมหน้า ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาญัตติด่วนที่ค้างอยู่ตามลำดับ