วันที่ 12 ก.ย.62 บรรยากาศการร้านจำหน่ายอาหารทะเลในตลาดสด โดยเฉพาะปลาชนิดต่าง และปลาทู พบว่ายังคึกคัก ทั้งนี้ นายชวลิต นุ่มสวัสดิ์ อายุ 56 ปี พ่อค้าแผงจำหน่ายปลาทูในตลาดสด เทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ผลวิจัยพบไมโครพลาสติกในกระเพาะปลาทูทะเลตรังไม่ใช่เรื่องแปลก พบเป็นปกติประจำอยู่แล้ว เนื่องจากปลาทูเป็นปลาขนาดเล็ก ปากเล็ก ทำให้ต้องกินโคลนตมที่มักมีของปนเปื้อน กินตะใคร่น้ำ สาหร่ายทะเล รวมทั้งตอดกินเศษไม้ เศษขยะ จึงมักพบเศษขยะตกค้างภายในเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ขณะที่ปลาตัวใหญ่จะกินลูกปลาตัวเล็กเป็นอาหาร “ จึงทำให้ประชาชนไม่ได้ตื่นตกใจใดๆ และตนเองก็ยังขายปลาทูได้ตามปกติ ราคาปกติ ไม่กระทบใดๆกับยอดขาย ลูกค้าที่มาซื้อไม่ได้บ่น หรือสอบถามอะไร ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อปลาทูไปแกงขายจะต้องซื้อปลาทูทีละหลายกิโลกรัมก็ให้ทางร้านควักเอาไส้ข้างในออกมาด้วย เพื่อง่ายต่อการนำไปประกอบอาหาร โดยในส่วนของพุงปลาหรือไส้กระเพาะปลาทู ก็จะมีลูกค้าประจำมารับไปทำไตปลาขายได้ปกติ” นายชวลิต กล่าว ทางด้านนางนิตศัลลยา ซินมุข อายุ 52 ปี ประชาชน กล่าวว่า ทราบข่าวเรื่องนี้ก็ไม่ได้กลัว หรือตกใจอะไร เพราะปกติกินปลาก็กินแต่เนื้อ ไม่ได้กินพุงปลาหรือเครื่องในปลาอยู่แล้ว ก่อนนำไปปรุงก็มีการดึงออกจากท้องปลาอยู่แล้วเหลือแต่เนื้อปลา กับก้าง ไม่น่ากลัวอะไรทั้งสิ้น ส่วนที่เขาทำไปไตปลา แม้จะเอาพุงปลาไปทำแต่ก็มีการทำความสะอาดก่อนและเอาไปต้มให้สุกก่อนแกง ก็ไม่น่ากลัวอะไร หากมีขยะติดมาก็สามารถย่อยสลายได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้จากผลงานวิจัยคือ ทำให้เราและประชาชนตื่นตัวไม่ทิ้งขยะใดๆลงทะเล จะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม สัตว์ทะเลกินเข้าไปก็ตายได้ ทุกคนก็ต้องช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงทะเล ต้องช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทางดร.สมพร วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า ในอดีตปลาจะไม่มีปัญหาเรื่องขยะ แต่ขณะนี้มีขยะแปลกปลอมเป็นพลาสติกและอื่นๆ ลงไปในท้องทะเล ซึ่งเกิดจากความมักง่ายของคนเยอะมาก ก็ย่อมส่งผลต่อความรู้สึกของผู้บริโภคทำให้เกิดความกลัว ไม่ว่าขยะนั้นจะเป็นขยะพลาสติกหรือขยะอื่นๆ คนที่บริโภคปลาก็จะมีความรู้สึก จะกระทบต่อพฤติกรรมการกินของคนขึ้น ส่วนความตื่นตัวของประชาชนก็มักจะเกิดการตื่นตัวในช่วงที่มีข่าว แต่ทั้งนี้ ต้องสร้างจิตสำนึกตั้งแต่เด็ก คนรุ่นเก่าๆก็กำลังจะจากไป แต่ควรสร้างจิตสำนึกตั้งแต่เด็กว่าจะต้องมีพฤติกรรมอย่างไรไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนอื่น หรือสังคม