ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันนี้(12ก.ย.62)ดัชนีปิดอยู่ที่ระดับ 1,673.03 จุด ลดลง 1.00 จุด (-0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 33,998.54 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,679.03 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,670.51 จุด น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยดัชนีเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ คล้ายคลึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ช่วงเช้าก็บวกได้ดี ก่อนจะเริ่มลดช่วงบวกลง อย่างไรก็ตาม Sentiment โดยรวมดีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯและจีน ยอมถอยกันคนละก้าวจากที่จีนได้ชะลอเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯบางรายการและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเลื่อนปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ จาก 1 ต.ค.ไปเป็น 15 ต.ค.62 ก่อนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นต.ค.62 แต่ตลาดฯยังมีความกังวลสงครามการค้าที่อาจยืดเยื้อ และยังมีความไม่แน่นอนด้วย โดยวันนี้ให้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งตลาดฯคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และให้รอดูว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)ออกมาด้วยหรือไม่ ส่วนสัปดาห์หน้าก็ติดตามดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ซึ่งตลาดคาดจะปรับลอดัตราดอกเบี้ย 0.25% แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ความเคลื่อนไหวของตลาดฯขึ้นอยู่กับตลาดยุโรปด้วย ซึ่งถ้าตลาดยุโรปบวกได้ก็จะช่วยหนุนให้ตลาดบ้านเราบวกได้เช่นกัน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,670-1,680 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ GULFมูลค่าการซื้อขาย 2,025.41 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 3.50 บาท,SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,629.82 ล้านบาท ปิดที่124.50 บาท เพิ่มขึ้น1.50 บาท,BBL มูลค่าการซื้อขาย1,401.03 ล้านบาท ปิดที่ 180.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท,PTTEPมูลค่าการซื้อขาย 1,302.65 ล้านบาท ปิดที่122.00 บาท ลดลง 1.50 บาท,SCCมูลค่าการซื้อขาย 1,252.34 ล้านบาท ปิดที่ 440.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท