เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล​ เลขาธิการ และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับวินิจฉัยกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมายิ่งแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของสภาผู้แทนราษฎรที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการอภิปราย เหตุผลที่ศาลหยิบยกขึ้นมาใช้คือมองว่าประเด็นการถวายวัตย์ฯ นั้นเป็นเรื่องของการกระทำของรัฐบาล องค์กรตุลาการจะไม่เข้าไปตรวจสอบ เมื่อเป็นเรื่องทางการเมืองอย่างนี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่า สภาผู้แทนราษฎรมีความชอบธรรมที่จะแก้ปัญหาทางการเมืองเรื่องนี้ ซึ่งตนมองว่าการถวายสัตย์ไม่ครบของนายกฯ นี้ แสดงถึงความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญว่า หากมีนายกฯ ท่านหนึ่งกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ เราจะทำเช่นไร และจะมีบรรทัดฐานอย่างไร ส.ส.ในฐานะผู้แทนของราฎรที่เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด เรามีความชอบธรรมและจะต้องอภิปรายตรวจสอบเพื่อหาทางออกให้กับ ครม. นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบนั้น เรามีการตรวจสอบหลายรูปแบบทั้งในทางกฎหมายซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และการตรวจสอบทางการเมืองต่อสาธารณชน โดยส่วนใหญ่ผ่านช่องทางสภา อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดสรรตัวบุคคลที่จะอภิปรายเรายังไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอย่างละเอียด แต่เรามีเวลาอยู่ประมาณ 10 กว่าชั่วโมง ซึ่งยังไม่ได้พูดกันในพรรคร่วมว่าจะจัดสรรกันอย่างไร เพราะสัปดาห์นี้พูดกันเรื่องการจัดคณะกรรมาธิการ เมื่อถามว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ขอร่วมอภิปราย และขอเวลาด้วยในฐานะฝ่ายค้านอิสระ นายปิยบุตร กล่าวว่า ส่วนนี้ต้องมาคุยกัน ทั้งนี้ อยากให้มีการอภิปรายแบบเปิดเผย เพราะตนคิดว่าเป็นเรื่องที่โปร่งใสที่สุด เนื่องจากในทางปฏิบัติหากมีส.ส.คนหนึ่งที่นั่งฟังอยู่แอบเดินมาบอกสื่อก็เท่ากับไม่ลับอยู่ดี เมื่อถามถึงกระบวนการการตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปิยบุตร กล่าวว่า คิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านคงตจะดำเนินการกันต่อ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องยื่นร้องให้มีการตรวจสอบอื่นๆ