ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่คุมด้านเศรษฐกิจแล้ว แต่เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่คุมกระทรวงเศรษฐกิจเพียง 4 กระทรวงเท่านั้น ทั้งนี้ยืนยันว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง ดังนั้นทุกคนต้องมีความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตามต้องมองประเทศสิงคโปร์ เป็นตัวอย่าง มีปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวเหมือนไทย การแก้ไขปัญหาก็ลำบากแต่สิงคโปร์ก็ไม่ตกใจ และไม่จำเป็นต้องมีมาตรการอะไรออกมา ส่วนไทยก็เช่นกัน ไม่ใช่ว่าเมื่อมีปัญหาแล้วจำเป็นต้องมีมาตรการออกมากระตุ้นเสมอไป แต่ทุกคนต้องรู้จักลุกขึ้นมาสู้ ช่วยตัวเองบ้าง เพราะเศรษฐกิจไทยไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด           ทั้งนี้ในช่วงสิ้นเดือน ก.ย. นี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.), สภาเกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) เร่งพิจารณามาตรการในการขับเคลื่อนภาคเกษตร โดยให้กระทรวงการคลังทำหน้าที่ในการประสานงานทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าภาคเกษตรได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าตกต่ำ รวมถึงยังไม่มีเทคโนโลยีในการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้าที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องเข้าไปดูแลในส่วนนี้ เพื่อต่อยอดรายได้ของเกษตรกร ส่วนกรณีที่ มี 2 โพลออกมาระบุถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ที่มองว่ารัฐบาลสอบตกด้านนโยบายเศรษฐกิจ ดร. สมคิด ระบุเพียงว่า ให้ไปดูลายละเอียดของโพลทั้งหมดด้วยว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไร