วันที่ 8 ก.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อนำเสนอข่าว "พี่ชายคาใจ พ่อครัวโรงแรมบุกออฟฟิศทวงเงินเดือน เจอตำรวจยิงดับ" ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ว่า
ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่าเมื่อวันที่ (6 ก.ย. 62)เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุ มีชายคลุ้มคลั่งถืออาวุธมีดเข้ามาภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซ.นาเกลือ 18 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เมื่อไปถึงพบผู้ตายยืนถือมีดอยู่บริเวณหน้าโรงแรม จึงออกคำสั่งให้ผู้ตายหยุดและทิ้งอาวุธมีดในมือ ตามขั้นตอน ของหลักยุทธวิธีตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะควบคุมตัว ผู้ตายได้ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บบริเวณมือขวา และยังต่อสู้ขัดขืน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชักอาวุธปืนมาขู่ แต่ผู้ตายกลับพยายามใช้อาวุธมีดแทงในระยะประชิดอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว แต่ปรากฏกระสุนไปถูกศีรษะของผู้ตาย ทำให้ถึงแก่ความตาย
ภายหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป และร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ อัยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และนำศพส่ง รพ.บางละมุงเพื่อส่งสถาบันนิติเวชชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรรม พบว่าผู้ตายเคยต้องโทษในคดีอาญามาก่อน จึงได้ทำการสอบสวนและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสามารถตอบคำถามสังคมได้ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.จว.ชลบุรี ได้มีคำสั่งให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยหากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติมาโดยตลอดถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำที่จะไปกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหา โดยให้กระทำตามอำนาจหน้าที่ตามกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น และอาศัยหลักยุทธวิธีเพื่อประเมินระดับการใช้กำลัง และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หมั่นฝึกทบทวนการปฏิบัติงาน ตามยุทธวิธีตำรวจอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความเคยชิน ลดการสูญเสีย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะต้องยึดหลัก กระทำการตามอำนาจหน้าที่ อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และใช้หลักยุทธวิธีตำรวจควบคู่กันไป
