เป็นเวลานานกว่า 3 ปีที่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กลับมาได้รับอิสรภาพอีกครั้งเมื่อเขาได้รับการปล่อยตัว เมื่อเช้าของวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความยินดีของมวลมิตรชาวพันธมิตร ที่เคยร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งนี้ “พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมาระบุว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ทำการปล่อยตัว สนธิ ในวัย 72 ปี ผู้ต้องขังชั้นเยี่ยม ที่ต้องคดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และอื่นๆซึ่งรับโทษมาแล้ว 3 ปี 1 เดือน “ขณะที่นายสนธิอยู่ภายในเรือนจำ มีความประพฤติดี ช่วยเหลืองานของทางราชการหลายอย่างและมีความก้าวหน้าในเรื่องการฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆของกรมราชทัณฑ์ครบถ้วนเรียบร้อย ประกอบกับเป็นผู้ที่มีอายุเกินกว่า70ปีและมีโรครุมเร้าหลายอย่าง” นอกจากนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ ยังยืนด้วยว่า การปล่อยตัวในครั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการได้รับพระราชทานพระราชทานอภัยโทษ รวมทั้งยังได้มีการหารือกับผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดรอบคอบ มิได้มีเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรือมีใบสั่งจากผู้ใด รวมทั้ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น การออกมาย้ำของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถึงการปล่อยตัวสนธิ ครั้งนี้ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวโยงกับเรื่องราวทางการเมืองนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องไม่ลืมว่าสนธิ คืออดีตแกนนำพันธมิตรฯ หรือ “ม็อบเสื้อเหลือง” ที่สำคัญมากที่สุดคนหนึ่งในการนำมวลชนเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในปี 2549 ก่อนที่ต่อมา จะเกิดเหตุการณ์รัฐประหารโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ในขณะนั้น ในวันที่ 19 ก.ย.2549 ด้วยอ้างว่าคมช.ต้องออกมาเพื่อยับยั้งเหตุการณ์ที่อาจจะมีการนองเลือดในวันที่ 20 ก.ย.เพราะสนธิ นัดระดมกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ขับไล่ รัฐบาลทักษิณ อีกบทบาทหนึ่งของสนธิ ในฐานะสื่อมวลชนคือ เป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ และยังเป็น ผู้ดำเนินรายการกลางแจ้ง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ภายหลังจากที่โค่นล้มรัฐบาลทักษิณ ลงได้แล้ว แต่ต่อมาพรรคการเมืองในมือของทักษิณ ก็ยังสามารถเอาชนะการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลได้อีกทำให้การต่อสู้ของสนธิและกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่จบลงในปี 2549 หลังการรัฐประหารโดยคมช. สำหรับประวัติความเป็นมา สนธิ ปัจจุบันอายุ 71ปี เกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. พ.ศ. 2490 ที่จังหวัดสุโขทัย ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนไหหลำ บุตรของวิเชียร แซ่ลิ้ม อดีตสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋ง และผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยหว่างผู่ กับไชย้ง แซ่ลิ้ม ทั้งคู่มาทำกิจการโรงพิมพ์ และออกหนังสือพิมพ์จีน จำหน่ายให้กับชาวจีนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รุ่น 18 รุ่นเดียวกับ ทนง พิทยะ หลังจากจบจากโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญศรีราชา สนธิ ถูกส่งตัวไปเรียนภาษาจีนที่ประเทศไต้หวัน พร้อมกับเรียนวิชาวิศวกรรมเครื่องกลที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันเป็นเวลาปีเศษ ก่อนไปเรียนต่อสหรัฐอเมริกา จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ยูซีแอลเอ เมืองลอสแอนเจลิส ปริญญาโท สาขาประวัติศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยยูทาห์สเตต เมืองโลแกน รัฐยูทาห์ และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาอักษรศาสตร์ ที่วิทยาลัยฮาร์ตวิคก์ เมืองโอนีโอนตา รัฐนิวยอร์ก และได้รับปริญญาสาขาประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายหลังจบการศึกษาได้ศึกษาต่อ MBA ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้รับปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และได้รับปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ การเมือง ที่มหาวิทยาลัยรังสิต สมรสกับจันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล (ช่องดารากุล) ชาวจังหวัดตรัง เมื่อ พ.ศ. 2516 ซึ่งเสียชีวิตแล้ว มีบุตรคือ จิตตนาถ ลิ้มทองกุล ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารกิจการในเครือผู้จัดการ