“อุตตม”จับมือ “สันติ”สั่งกรมศุลกากรคุมเข้มร้านปลอดภาษี-สินค้าเกษตร-สินค้าออนไลน์-หิ้วจากต่างประเทศ ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์สกัดลักลอบแบรนด์เนม-สิ่งเสพติด ป้องกันรั่วไหลการจัดเก็บรายได้ภาษีจากสินค้า เมื่อวันที่ 5ก.ย.62 นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง มอบนโยบายให้กับผู้บริหารกรมศุลกากร โดยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมศุลกากรต้องเร่งรัดเชื่อมต่อระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการนำเข้าส่งออกสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ทั้ง 37 หน่วยงานในประเทศ และ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนให้เสร็จในสิ้นปีนี้ เพื่อใช้เทคโนโลยีตรวจสินค้านำเข้าให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น เครื่องเอ็กซเรย์ เพื่อป้องกันการลับลอบการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาทิ หัวหอม กระเทียม ข้าวเหนียว น้ำมันปาล์ม รวมทั้งสินค้านำเข้ามาเพื่อจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังกล่าวว่า ได้กำชับให้เร่งตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี ซึ่งกระจายอยู่หลายพื้นที่ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของการจัดเก็บรายได้ภาษีจากสินค้า ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลการจำหน่ายสินค้า สต็อกสินค้า สอดคล้องกับยอดจำหน่ายหรือไม่ เพื่อจัดเก็บภาษีได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมยอมรับว่า ปัจจุบันไทยมีร้านค้าปลอดภาษีทั้งในสนามบิน และในตัวเมือง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ยอมรับว่ามีการลักลอบหนีภาษี จึงต้องตรวจดูป้องกันการรั่วไหลด้วย รวมถึงต้องเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบสินค้าออนไลน์ที่เติบโตมากขึ้น นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า สินค้าร้านค้าปลอดภาษี หากคนซื้อต้องนำไปใช้ในต่างประเทศห้ามถือนำกลับมาใช้ในไทย และขณะนี้ได้เร่งเปิดใช้งานเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าเดินทาง ณ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 23 เครื่อง เพื่อเริ่มใช้ได้วันที่ 1 ม.ค.63 รองรับการสแกนกระเป๋าเดินทางใต้ท้องเครื่องบินได้ทุกใบ เพื่อตรวจสอบสินค้าต้องห้าม สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ยาเสพติด รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมราคาแพง เข้าข่ายเสียต้องสำแดงเสียภาษี การใช้งานของเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อสแกนกระเป๋าได้ทุกใบ ช่วยแก้ปัญหาธุรกิจ พรีออร์เดอร์ผ่านตลาดออนไลน์ หรือรับหิ้วสินค้าหลีกเลี่ยงภาษีมาขายในประเทศ “ผู้ที่นำเข้าสินค้าราคาแพงต้องมีจิตสำนึกในการเสียภาษี และต้องรู้ตัวว่าควรต้องสำแดงสินค้าเพื่อเสียภาษีหรือไม่ กรมไม่ได้กังวลว่าจะเกิดดราม่า เมื่อทำเรื่องที่ถูกต้อง ยอมรับสิ่งที่ทำ ซึ่งกรมอนุโลมให้สามารถนำของติดตัว ซึ่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาในไทยได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อคน” ทั้งนี้กรมศุลกากรพยายามเข้มงวดในเรื่องการลักลอบเสียภาษี โดยในปีงบ 2562 สามารถจับกุมกรณีลักลอบไปแล้ว 5.8 พันคดี และหลีกเลี่ยงภาษีไปแล้ว 2.3 หมื่นคดี เพิ่มสูงช่วงเดียวกันปีงบ 2561 จับกุมลักลอบไป 5.3 พันคดี หลีกเลี่ยงภาษีไป 1.5 หมื่นคดี สำหรับการดูแลสินค้าเกษตรอ่อนไหวเช่น กระเทียม หอมใหญ่ และหอมแดง กรมจับกุมไปแล้ว 384 ราย เพิ่มขึ้น 86% ในปีนี้จัดเก็บภาษีในกลุ่มดังกล่าวถึง 1.6 พันล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมาจัดเก็บภาษีในกลุ่มนี้ได้ 1 พันล้านบาท ถือว่าเพิ่มขึ้นมาก ล่าสุดจัดเก็บภาษีได้ 1.03 แสนล้านบาท จากเป้าหมาย 1.08 แสนล้านบาท คาดว่าน่าจะทำได้