พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชา นุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย วันที่ 4 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา เวลา 08.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมโรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อจากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,657 ถุงไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเสลภูมิ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอธวัชบุรี และอำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด ณ หอประชุมโรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในตอนบ่ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 645 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอโพนทอง และอำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ณ หอประชุมโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุอุทกภัยให้รับทราบ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารพระราชทานให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยและที่เดินทางมารับถุงพระราชทานตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มาให้ความช่วยเหลือราษฎร กับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเสลภูมิ จำนวน 3 ราย และอำเภอโพนทอง จำนวน 3 ราย พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจกับราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “โพดุล” ที่พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่เทศบาลร้อยเอ็ดและพื้นที่ลุ่มน้ำยัง บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชย์ พื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายใน 7 อำเภอ 80 ตำบล 1,020 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 61,738 ครัวเรือน และราษฎรเสียชีวิต 5 ราย