เมื่อวันที่ 4 ก.ย.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน ผกก.4 บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ยศพนธ์ จรรยาสถิต รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรีฯ ปรท.ผบก.อก.สตม.แถลงผลการจับกุมแก๊งปั่นหุ้นชาวจีนได้ผู้ต้องหา 58 คน ใช้วีซ่านักท่องเที่ยว เข้ามากบดานในประเทศไทยและใช้เป็นฐานในการกระทำผิดลักลอบทำงานในไทย ยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกว่า 40 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือกว่า 200 เครื่อง พร้อมของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยสามารถจับกุมและยึดได้ที่ภายในห้องพักชั้น 6 และ7 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยลาดพร้าว101 แยก21 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ที่เช่าห้องพักเอาไว้กระทำความผิด การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค.62 ชุดสืบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองกำกับการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ได้รับคำสั่งให้สืบสวนติดตามกลุ่มบุคคลชาวจีนที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำผิดหรือใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งที่พักในการหลบหนีคดี ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มชาวจีนจำนวนหลายคน เข้ามาเช่าห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ชั้น 6 และชั้น 7 ซอยลาดพร้าว 101 แยก 21 แขวงคลองเจ้าสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยคือจะไม่ออกไปข้างนอก และจากการสืบสวนในเชิงลึกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่ากลุ่มชาวจีนดังกล่าวน่าจะเข้ามากระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำความผิดผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค ทางชุดจับกุมจึงได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญารัชดาและได้ร่วมกับกองกำกับการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ และ สน.ลาดพร้าว นำกลังเข้าทำการตรวจค้นพบกลุ่มชาวจีน จำนวน 58 คน กำลังทำการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ พูดคุยกับลูกค้าที่หลงเชื่อและถูกดึงเข้ามาในกลุ่มแชท (WECHAT) ของแก๊งผู้ต้องหา ซึ่งแก๊งผู้ต้องหาจะมีการจัดการให้ลูกค้าหลงเชื่อว่าหุ้นตัวไหนที่ดีเหมาะแก่การลงทุน โดยจะมีผู้ต้องหาคนอื่นแสดงเป็นอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ในการให้ข้อมูลกับลูกค้าที่หลงเชื่อและจะมีผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่งแสดงตนเป็นคนคอยสนับสนุนความน่าเชื่อถือของอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีจำนวนกลุ่ม WECHAT กว่า 100 กลุ่ม และจากการตรวจสอบห้องพักพบของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น โทรศัพท์มือถือ จำนวนกว่า 200 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 40 เครื่อง แผ่นกระดาษและสมุดจดบันทึกเป็นภาษาจีน (บันทึกการปฏิบัติในแต่ละวัน)จำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากการสอบถามกลุ่มคนร้ายสารภาพว่า มีกลุ่มนายทุนคนจีนได้ว่าจ้างให้พวกตนเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยจะให้ค่าจ้าง จำนวน 6,000 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท ซึ่งตกลงค่าจ้างให้ในช่วงสิ้นเดือนหลังจากที่ได้เริ่มทำงาน และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่มีหนังสืออนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรไทย จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีในส่วนของเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตและถือได้ว่าเป็นบุคคลมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมฯ จึงดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและควบคุมกักตัวไว้ที่ห้องกัก สตม.เพื่อรอผลักดันส่งกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อท้ายว่า ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th