ตลท.เดินหน้าจับมือ กฟผ.ศึกษาความพร้อมตลาดซื้อขายไฟฟ้า ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายพลังงานไฟฟ้าอาเซียน นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจทั่วโลกต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่มีการแข่งขันมากขึ้น รวมถึงสาธารณูปโภคที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ตลท.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งนี้เพื่อศึกษาการพัฒนาสินค้าหรือแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่ง (Wholesale Electricity Market) เพื่อการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งต่อผู้ผลิตและผู้ใช้ ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่ารูปแบบการซื้อขายจะออกมาลักษณะใด ขอเวลาศึกษาร่วมกันก่อน โดยจะนำข้อดีข้อเสียของแต่ละประเทศที่เคยทำเช่น ยุโรป มาศึกษาและปรับใช้ให้เข้ากับประเทศไทยต่อไป เบื้องต้นจะเป็นการขายส่ง(wholesale)ไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรม นางภาวนา อังคณานุวัฒน์ รองผู้ว่าการบริหาร กฟผ.กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมในการทำตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่งรูปแบบใหม่ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายได้แก่ แบบ Capacity Market ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายกำลังผลิตล่วงหน้าระยะ 3-5 ปี และแบบ Energy Market ซึ่งเป็นการซื้อขายไฟฟ้ารายวัน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาค(Center of Regional Electricity Trading) อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับการเปิดตลาดเสรี เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในกิจการไฟฟ้า สำหรับกรอบความร่วมมือครอบคลุมการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าระดับขายส่ง (Wholesale Electricity Market Trading Platform)โมเดลอุตสาหกรรมกิจการไฟฟ้า กลไกการซื้อขายไฟฟ้า และการพัฒนาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้าและระหว่างวันระดับขายส่ง ความร่วมมือของทั้ง 2 องค์กรถือเป็นการเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า โดยใช้กลไกของระบบตลาดเป็นตัวผลักดัน ทำให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการไฟฟ้า และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยความร่วมมือระหว่าง ตลท.และ กฟผ.มีระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.62-3 ก.ย.63 โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันศึกษาและพัฒนาโมเดลอุตสาหกรรมกิจการไฟฟ้าสำหรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าระดับขายส่ง การสนับสนุนข้อมูล พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาดังกล่าว เป็นต้น