วิถีชีวิตของคนไทยเรียกได้ว่าเกี่ยวข้องกับแม่น้ำและคลองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยโบราณจนมาถึงทุกวันนี้ และจังหวัดปทุมธานี ถือเป็นอีกจังหวัดที่มีวิถีชีวิตริมน้ำและปัจจุบันผู้คนยังคงใช้ชีวิตผูกพันกับสายน้ำแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่าย ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองปทุมธานี และวันนี้เรามีทริปเล็ก ๆ ใช้เวลาเดินเที่ยวไม่ถึง 1 วัน มาฝากกัน
เริ่มต้นทริปกันด้วยของดีรสชาติอร่อยกันที่ตลาดปทุมธานีบริเวณถนนเทศปทุม ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี เป็นตลาดเช้าที่เก่าแก่อายุกว่า 100 ปีหลังเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ต้องไม่พลาดเดินเที่ยวชมหมู่อาคารประวัติศาสตร์ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการศาลจังหวัดปทุมธานี (หลังเก่า) อายุกว่า 100 ปี และ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี(หลังเก่า) สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 ภายในมีหอนิทรรศน์ปทุมธานี ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของปทุมธานีในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย บอกเล่าเรื่องราวเมืองปทุมธานีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ไม่ได้เพียงนำชม แต่จะพาไปเยือนความรุ่งเรืองอารยธรรมของเมืองเก่า ความรุ่งเรืองของเมืองข้าว และชมความก้าวหน้าของเมืองอุตสาหกรรม ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจรู้จักปทุมธานีอย่างถ่องแท้มากขึ้น
ออกจาก “หอนิทรรศน์ปทุมธานี” เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม จะเห็นอาคารเรือนแพขาวตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2460ในอดีตเรือนแพขาวแห่งนี้เคยรับรองบุคคลสำคัญ อาทิ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จมาทอดพระเนตรการแข่งเรือ และเยี่ยมเยียนราษฎร เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2489 ต่อมาคือ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรทัศนียภาพลำน้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าเรือนแพขาว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ภายในอาคารเรือนแพขาวมีห้องต่าง ๆ และมีห้องซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะกันอีกด้วย
จากอาคารเรือนแพขาว เดินไปอีกประมาณ 350 เมตร จะมีวัดหงษ์ปทุมาวาสเป็นวัดริมแม่น้ำที่สร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาโดยขนานนามว่า "วัดหงสา" ตามชื่อเมืองหงสาวดีและสร้างเสาหงส์ไว้เป็นสัญลักษณ์ ปูชนียวัตถุสำคัญของวัดคือ พระพุทธชินราชจำลองปางมารวิชัย เจดีย์มอญ รูปหล่อหลวงปู่เฒ่าที่ชาวบ้านนับถือ วัดแห่งนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาหน้าวัด เรียกว่า “วังมัจฉาวัดหงษ์” มีพันธุ์ปลาต่างๆ มากมายที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นปลาสวาย ปลาเทโพและปลาอื่นอีกหลายชนิดมารอรับอาหารจากผู้ใจบุญกันอย่างเนืองแน่นถือเป็นวัดที่นอกจากประชาชนจะมาทำบุญไหว้พระขอพรแล้ว ยังเป็นที่ที่ผู้คนนิยมมาให้อาหารปลาอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้าง กับทริปเล็ก ๆ ที่นำมาฝากกัน ได้ทั้งความคลาสสิคของเมืองปทุมธานี เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตริมน้ำ ทำบุญไหว้พระ และให้อาหารปลา โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน ถือเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่คุ้มค่ามากๆ ใครชอบเที่ยวแนวนี้ ต้องมาชมที่นี่ดูสักครั้ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี Facebook Fanpage
: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี/pathumthanimots.com
บทความโดย : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี
เริ่มต้นทริปกันด้วยของดีรสชาติอร่อยกันที่ตลาดปทุมธานีบริเวณถนนเทศปทุม ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี เป็นตลาดเช้าที่เก่าแก่อายุกว่า 100 ปีหลังเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ต้องไม่พลาดเดินเที่ยวชมหมู่อาคารประวัติศาสตร์ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการศาลจังหวัดปทุมธานี (หลังเก่า) อายุกว่า 100 ปี และ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี(หลังเก่า) สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 ภายในมีหอนิทรรศน์ปทุมธานี ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของปทุมธานีในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย บอกเล่าเรื่องราวเมืองปทุมธานีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ไม่ได้เพียงนำชม แต่จะพาไปเยือนความรุ่งเรืองอารยธรรมของเมืองเก่า ความรุ่งเรืองของเมืองข้าว และชมความก้าวหน้าของเมืองอุตสาหกรรม ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจรู้จักปทุมธานีอย่างถ่องแท้มากขึ้น
ออกจาก “หอนิทรรศน์ปทุมธานี” เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม จะเห็นอาคารเรือนแพขาวตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2460ในอดีตเรือนแพขาวแห่งนี้เคยรับรองบุคคลสำคัญ อาทิ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จมาทอดพระเนตรการแข่งเรือ และเยี่ยมเยียนราษฎร เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2489 ต่อมาคือ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรทัศนียภาพลำน้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าเรือนแพขาว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ภายในอาคารเรือนแพขาวมีห้องต่าง ๆ และมีห้องซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะกันอีกด้วย
จากอาคารเรือนแพขาว เดินไปอีกประมาณ 350 เมตร จะมีวัดหงษ์ปทุมาวาสเป็นวัดริมแม่น้ำที่สร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาโดยขนานนามว่า "วัดหงสา" ตามชื่อเมืองหงสาวดีและสร้างเสาหงส์ไว้เป็นสัญลักษณ์ ปูชนียวัตถุสำคัญของวัดคือ พระพุทธชินราชจำลองปางมารวิชัย เจดีย์มอญ รูปหล่อหลวงปู่เฒ่าที่ชาวบ้านนับถือ วัดแห่งนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาหน้าวัด เรียกว่า “วังมัจฉาวัดหงษ์” มีพันธุ์ปลาต่างๆ มากมายที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นปลาสวาย ปลาเทโพและปลาอื่นอีกหลายชนิดมารอรับอาหารจากผู้ใจบุญกันอย่างเนืองแน่นถือเป็นวัดที่นอกจากประชาชนจะมาทำบุญไหว้พระขอพรแล้ว ยังเป็นที่ที่ผู้คนนิยมมาให้อาหารปลาอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้าง กับทริปเล็ก ๆ ที่นำมาฝากกัน ได้ทั้งความคลาสสิคของเมืองปทุมธานี เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตริมน้ำ ทำบุญไหว้พระ และให้อาหารปลา โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน ถือเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่คุ้มค่ามากๆ ใครชอบเที่ยวแนวนี้ ต้องมาชมที่นี่ดูสักครั้ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี Facebook Fanpage
: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี/pathumthanimots.com
บทความโดย : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี