3 นักปั่นไทย “วิภาวี-เมธาสิทธิ์-ชินพัฒน์” สู้สุดฤทธิ์ ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ประเภทดาวน์ฮิล ในศึกจักรยานเสือภูเขาเสือภูเขาชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ เมาเท่นไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่แคนาดา ด้านจักรยานทางไกลเยาวชนชาย “ทัวร์ เดอ ดีเอ็มซี 2019” ที่เกาหลีใต้ นักปั่นไทยโชคไม่ดี ล้มกลิ้งถึง 2 คน แต่ยังใจสู้ตามเข้ากลุ่มแข่งขันจนจบ ส่วนนักปั่นสาวทีมชาติชุดใหญ่ลงชิงชัยรายการ “ลา พิคโต ชาแรนตัวส์” ที่ฝรั่งเศส “จุฑาธิป” จบอันดับที่ 16 “โค้ชตั้ม” พอใจผลงาน ชี้นักกีฬาอ่อนล้าเพราะกรำศึกมาหนัก “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาทีมชาติไทยชุดต่าง ๆ ไปแข่งขันรายการระดับนานาชาติที่ต่างประเทศ ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ได้รับการรายงานจาก สิบตำรวจโทหญิง กฤติกา ศิลาพัฒน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนประเภทเสือภูเขา ถึงการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาเสือภูเขาชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ เมาเท่นไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่ประเทศแคนาดา โดยการแข่งขันวันแรก เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลากลางคืนในประเทศไทย มีนักปั่นไทยลงชิงชัย 3 คน ได้แก่ ในประเภทดาวน์ฮิล รุ่นประชาชนชาย “ตั้ง” ชินพัฒน์ สุขจรรยา กับ “เบส” เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และประเภทดาวน์ฮิล รุ่นประชาชนหญิง “เพชร” วิภาวี ดีคาบาเลส ส.ต.ท.หญิง กฤติกา เผยว่า ตามที่ตนเองได้รายงานมายังท่านายกสมาคมฯ พลเอกเดชา เมื่อวันก่อนว่า สภาพสนามแข่งขันแห่งนี้ เป็นสนามที่โหดมาก มีหินก้อนใหญ่เล็กเป็นอุปสรรคมากมาย และระยะทางก็ยาวถึง 2.9 กม. จนกระทั่ง วิภาวี ยังเอ่ยปากว่าเป็นสนามที่โหดที่สุดเท่าที่เคยเจอมา สำหรับวันแรก เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก มีฝนตกลงมาทำให้เส้นทางลื่นมาก อากาศก็หนาว แต่นักปั่นไทยก็สู้กันสุดฤทธิ์ ผลปรากฏว่า วิภาวี ได้อันดับที่ 24 เมธาสิทธิ์ ได้อันดับที่ 34 และ ชินพัฒน์ ได้อันดับที่ 72 อย่างไรก็ตาม นักปั่นไทยทั้ง 3 คน สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ นับว่าเป็นผลงานที่น่ายินดีมาก ด้าน พันจ่าอากาศเอก นรุตม์ชัย ข้อหยุ่น ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนประเภทถนน ได้รายงานมายัง พลเอกเดชา ถึงการแข่งขันจักรยานทางไกลเยาวชนชาย รายการ “ทัวร์ เดอ ดีเอ็มซี 2019” ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เป็นการชิงชัยในสเตจที่ 2 ระยะทาง 113 กม. จากเมืองอินเจ ไปยังเมืองฮวาชอน เส้นทางส่วนใหญ่เป็นภูเขา ซึ่งนักกีฬาของเราโชคไม่ดี ประสบอุบัติเหตุล้มถึง 2 คน ได้แก่ วิศวกร แก้วทอง ที่ในสเตจที่ 1 ได้อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 3 เวลารวม กับ มลตรี ธีระทีป ช่วงกิโลเมตรที่ 75 กว่า ๆ เนื่องจากเป็นทางลาดลงจากเนินเขา กลุ่มของ วิศวกร กับ มลตรี กำลังไล่กลุ่มนำเลยเกี่ยวกันล้ม ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม วิศวกร กับ มลตรี ยังใจสู้ไล่ตามกลุ่มใหญ่ทันและแข่งขันจนจบ โดยสเตจนี้มีนักกีฬาทีมอื่น ๆ ประสบอุบัติเหตุรถล้มถึง 3 ครั้ง “สรุปผลการแข่งขันของนักปั่นไทย สุระนาท คงสุข ได้อันดับดีที่สุด คืออันดับที่ 24 เวลา 2.36.43 ชั่วโมง, วิศวกร แก้วทอง ได้ที่ 30 เวลา 2.36.43 ชั่วโมง, กิตติกร ธีรวัฒนสาร ได้ที่ 60 เวลา 2.38.42 ชั่วโมง, ภูริช รอดวิไล ได้ที่ 64 เวลา 2.40.39 ชั่วโมง และ มลตรี ธีระทีป ได้ที่ 71 เวลา 2.40.40 ชั่วโมง ส่วนแชมป์สเตจ 2 ได้แก่ ลูคัส บัวร์กอยน์ นักปั่นสหรัฐอเมริกา จากยูเอสเอ จูเนียร์ เนชั่นแนล ทีม เวลา 2.36.04 ชั่วโมง พร้อมทั้งเป็นผู้นำเวลารวม 4.29.16 ชั่วโมง ส่วนเวลารวมของนักปั่นไทยที่ดีที่สุดคือ วิศวกร อยู่อันดับที่ 24 ตามหลังผู้นำ 1.05 นาที สำหรับสเตจที่ 3 แข่งขันวันพรุ่งนี้ (1 ก.ย.) เส้นทางจากเมืองฮวาชอน ไปยังเมืองยอนชอน ระยะทาง 128.7 กม. ยังเป็นเส้นทางขึ้นเขาลงเขาเหมือนเดิม ต้องใช้พลกำลังขามาก และระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก” พ.อ.นรุตม์ชัย กล่าว ส่วน “โค้ชตั้ม” นายวิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักปั่นสาวทีมชาติไทย ได้รายงานมายัง พลเอกเดชา ถึงผลการแข่งขันรายการ “ลา พิคโต ชาแรนตัวส์” ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 30 ส.ค. ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบวันเดย์เรซ บรรจุลงในปฏิทินของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ระดับ 1.2 แข่งขันกันในตัวเมือง ระยะทาง 116.8 กม. มีนักกีฬา 63 คน จาก 11 ชาติ ผลปรากฏว่า “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ ได้อันดับที่ 16 เวลา 3.12.10 ชั่วโมง ขณะที่แชมป์เป็นของ แกลดย์ส เวอร์ฮอลท์ นักปั่นเจ้าถิ่น จากชาเรนเต้ แมรีไทม์ ไซคลิง ทีม เวลา 3.11.40 ชั่วโมง ส่วนนักปั่นไทยคนอื่น ๆ ศุภักษร นันตะนะ ได้ที่ 36 ตามหลังผู้นำ 1.51 นาที, ชนิภรณ์ บัตริยะ ได้ที่ 37 ตามหลังผู้นำ 1.53 นาที, เพชรดารินทร์ สมราช ได้ที่ 40 และ กุลชลา ไชยรินทร์ ได้ที่ 41 ตามหลังผู้นำ 3.22 นาทีเท่ากัน, จันเพ็ง นนทะสิน ได้ที่ 42 ตามหลังผู้นำ 6.41 นาที “โค้ชตั้ม” กล่าวว่า ผลงานของนักปั่นไทยน่าพอใจในระดับหนึ่ง ทำได้ตามเป้าหมายที่ให้ทุกคนแข่งขันจนจบ แม้ว่าจะทำอันดับได้ไม่ดีนัก เป็นเพราะกรำศึกหนักมาหลายรายการ เรายังเหลืออีก 1 รายการ คือ จีพี เดอ พลอย ซึ่งเป็นวันเดย์เรซเช่นกัน เป้าหมายก็เหมือนเดิมคือต้องจบการแข่งขันทุกคน และหากติดอันดับ 1 ใน 10 ได้แต้มติดมือ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว