เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ค.ที่ชุมชนคลองเตย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานพิธีส่งมอบบ้านตามโครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้และด้อยโอกาส ในชุมชนคลองเตยจำนวน 40 หลัง และพิธีมอบสวนหย่อมชุมชนพัฒนาชุมชนใหม่ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมบ้านของประชาชนที่ได้รับการส่งมอบในชุมชนล็อค1-3 จำนวน 3 หลัง โดยทุกหลังได้รับมอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี อัญเชิญประดิษฐานที่บ้านแต่ละหลังด้วย โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 และตัวแทนภาครัฐเข้าร่วม ทั้งนี้โครงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักให้กับผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในเขตพื้นที่กทม.และ 25 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. โครงการ “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ” ตามพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ตลอดจนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับผู้พักอาศัยในชุมชนแออัด โดยร่วมมือกับกทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินการโครงการด้วย อย่างไรก็ตามภายในงานมีประชาชนชาวชุมชนคลองเตยเข้าร่วมงานประมาณ 200 คน รวมทั้งมีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อรับปัญหาสุขภาพ รถครัวภาคสนามเพื่อทำอาหารเลี้ยงประชาชน รวมถึงการบริการตัดผมเพื่อให้บริการกับประชาชนในชุมชนด้วย ทั้งนี้พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราโชบายในการให้ข้าราชการและทุกภาคส่วนร่วมกันช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชธาโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อเป็นการรวมพลังความสามัคคีของคนไทยทุกคนในการทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์เพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนต่างๆให้มีความเจริญและเกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างถาวร กองทัพบกจึงได้สนองพระบรมราโชบายดังกล่าวด้วยการดำเนินโครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่กทม. และ25 จังหวัดภาคกลางโดยความร่วมมือระหว่างกองทัพภาคที่หนึ่งกลับกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆตลอดจนภาคเอกชนทุกภาคส่วนตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 เป็นต้นมา “กองทัพบกได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นพื้นฐานด้านที่อยู่อาศัยในการดำรงชีวิตของพวกเราทุกคนจึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและพื้นที่กรุงเทพมหานครรวมทั้งให้ชุมชนคลองเตยแห่งนี้เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีบนพื้นฐานสังคมของความพอเพียงเพื่อเฟื้อเผื่อแผ่กันและการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ผมขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโครงการนี้แสดงให้เห็นประจักษ์ชัดว่าทุกคนมีปณิธานเดียวกันกับกองทัพบกในอันที่จะยืนหยัดเคียงคู่กับประชาชนในทุกโอกาสและร่วมสร้างสรรค์สังคมประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว นอกจากนี้พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้พูดคุยกับนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีตส.ว.กทม. และ 1 ในแกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย ระหว่างตรวจเยี่ยมชุมชน โดยนางประทีปได้พูดถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2534 ที่เกิดเหตุการคลังสารเคมีระเบิดที่ท่าเรือคลองเตย ซึ่งในขณะนั้นพล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ได้นำกำลังพลมาช่วยเหลือชาวบ้าน ขณะที่พ.อ.หญิง คุณหญิงอรชร คงสมพงษ์ ภรรยา ก็จะมาทำบุญเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในชุมชนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามในส่วนของพล.อ.อภิรัชต์ก็ได้รับฟังและเล่าเหตุการณ์ที่เคยตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตอนหนึ่งว่า จำได้หรือไม่ว่าเมื่อประมาณปี2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เคยเสด็จมาที่ชุมชนแห่งนี้ และเดินเข้าไปตามทางที่เป็นไม้กระดาน เพื่อทรงเยี่ยมชุมชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านมีความห่วงใยชุมชนคลองเตย จากนั้นพล.อ.อภิรัชต์ ได้พูดคุยกับผู้ได้รับมอบบ้านและชาวบ้านที่บริเวณที่เดินผ่าน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมสวนหย่อมของชุมชน โดยตั้งใจให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและนัดพบของชุมชน เพราะชุมชนคลองเตยนั้นแออัด โดยทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ต้องทำรั้วกั้นและปิดเวลากลางคืนเพื่อป้องกันสุนัขเข้ามาและป้องกันปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยทางเดินในชุมชนคลองเตยนั้นแคบ ช่องทางเดินสามารถเดินสวนกันได้เท่านั้น แต่ไม่ได้ปิดกั้นเส้นทางแต่อย่างใด ส่วนสภาพบ้านเรือนมีขนาดเล็กและอยู่กันหลายคน มีร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านตัดผม แทรกตัวอยู่ตามจุดต่างๆ และมีการเลี้ยงไก่ชนหลายบ้าน โดยตลอดการลงพื้นที่มีฝนตกอยู่ตลอด ต่อมาพล.อ.อภิรัชต์ ให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีโครงการจิตอาสาพระราชทานเราทำความดีด้วยหัวใจ ซึ่งทุกหน่วยงานและกองทัพบกสำนักงานตำรวจแห่งชาติรวมถึงทุกภาคส่วนอีกทั้งกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคเอกชนต่างก็น้อมรับพระราโชบายมี่ทรงอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ไม่ว่าจะในเขตกรุงเทพมหานครหรือต่างจังหวัด เมื่อวานตนก็ไปดูชมรม ฮักเขาใหญ่ จิตอาสา ที่ช่วยทำความสะอาดบริเวณเขื่อนลำตะคอง ในส่วนของวันนี้เป็นพื้นที่ของกองทัพภาคที่1 และภาค กทม. ที่มาช่วยกันปรับปรุงบ้านให้กับประชาชนในชุมชนแออัดที่คลองเตย ซึ่งคนเก่าๆในชุมชนยังจำได้อยู่เมื่อสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระอิสริยะยศเป็นพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เคยเสด็จพระราชดำเนินมาชุมชนแห่งนี้ ทรงเดินบนกระดานไม้เก่าๆ แต่ปัจจุบันเป็นพื้นปูนหมดแล้ว สื่อให้เห็นถึงความห่วงใยที่พระองค์ท่านทรงมีต่อประชาชนและกองทัพบกก็ได้นำมาขยายผล ตนเชื่อว่าหลังจากที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยและส่งมอบทั้งหมดแล้วประชาชนก็จะต้องช่วยกันดูแลรักษา ส่วนใดที่ยังไม่ได้ทำการซ่อมก็จะมีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยการท่าเรือหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนก็จะมาช่วยดำเนินการ ซึ่งจะต้องทยอยดำเนินการโดยตัองได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ด้วย พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ส่วนสวนหย่อมสวยงามเป็นพื้นที่พักผ่อน อยากให้เด็กในชุมชนได้มีโอกาสมาใช้ประโยชน์และทุกคนต้องมีจิตอาสาคืออย่าทำสกปรก เพื่อให้ชุมชนสะอาด ช่วยกันเก็บขยะ สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติดถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล โดยดำเนินการมาตั้งแต่สมัยเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งจะสังเกตได้ว่าปริมาณยาเสพติดที่เข้ามาในพื้นที่ส่วนกลางน้อยลง ทำให้ยาเสพติดมีราคาเพิ่มมากขึ้นในส่วนของกองทัพบกตนได้ให้นโยบายกับหน่วยและกองทัพภาคต่างๆว่าต้องหยุดยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนให้ได้ บางครั้งเจ้าหน้าที่ทำงานคนอื่นก็ไม่เห็น ก็มีการไปจับประเด็นเรื่องอื่นมาโจมตี เพื่อดิสเครดิต ซึ่งก็ต้องย้อนกลับไปดูปริมาณยาเสพติดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทางทหาร ตำรวจและจังหวัดสามารถหยุดยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนได้ปริมาณมหาศาล ใน1ปีที่ผ่านมานั้น ได้จำนวนมากกว่า 3-4 ปีรวมกัน เพราะฉะนั้นปัญหายาเสพติดเป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ใช่แค่ทหารและตำรวจ ซึ่งรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความจริงจังและเข้มงวดมากในเรื่องนี้ อีกทั้งน่ารักความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะช่วยกันต้านยาเสพติดและหยุดไว้บริเวณแนวชายแดน ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงการดูแลแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชุมชนคลองเตยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะถือเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง พร้อมทั้งมีช่องทางให้สามารถแจ้งเบาะแสได้ทุกช่องทาง