วันที่ 14 พ.ย.68 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบกและ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เนื่องจากทหารขาขาดเพิ่มอีกหนึ่งราย ว่า ส่วนตัวในฐานะที่เกษียณราชการมาแล้ว และในฐานะที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก มองว่าเป็นเรื่องที่นายกฯ ได้ให้คำชี้แจงยืนยันไปแล้ว ส่วนบุคคลที่เราควบคุมตัวทั้ง 18 นาย ก็ยังไม่ให้ปล่อยตัวเชลยศึก ซึ่งตอนนี้เป็นการตอบโต้ในขั้นต้นก็ชัดเจนอยู่แล้ว และทางนายกฯ ได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ฉะนั้นฝ่ายความมั่นคงและเหล่าทัพต่างๆ ก็ต้องเตรียมจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามสมควร
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการระงับปฏิญญาสันติภาพไปก่อนนั้น พลโท บุญสิน ระบุว่า ก็น่าจะเหมาะสม เพราะเป็นเรื่องที่เราสูญเสียกำลังพล เราต้องแสดงออกถึงความเหมาะสมและไม่พอใจที่ลูกน้องเราโดนกระทำแบบนี้ ก็ต้องมีการตอบโต้อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว นอกจากการประท้วงด้วยเอกสาร
เมื่อถามต่อว่าหากมีการสูญเสียขาที่ 8 เราสามารถเริ่มยิงไปที่ฐานที่รับผิดชอบ โดยไม่เห็นตัว ในทางปฏิบัติทำได้เลยหรือไม่ พลโท บุญสิน เผยว่า ทางแม่ทัพและผู้บัญชาการทหารบกคงจะมีการให้แนวทางไปแล้ว เพราะก็ต้องดูว่าเหยียบที่ไหน เป็นระเบิดเก่าหรือระเบิดใหม่ และอยู่ในอธิปไตยหรือมีฐานข้าศึกอยู่จุดนั้นหรือไม่ มีการเข้ามาวางนานหรือยัง และสมควรแก่เหตุหรือไม่ ตนคิดว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจของทางแม่ทัพ
เมื่อถามว่าส่วนตัวได้มองสถานการณ์เหล่านี้ไว้หรือไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน พลโท บุญสิน กล่าวว่า ตามนโยบายของนายกฯ ก็น่าจะมีความไม่พอใจที่ทหารเขมรทำการวางระเบิดจุดนั้น แต่คงรอว่าจะมีความคลี่คลายหรือไม่อย่างไร และที่จังหวัดสระแก้วก็ยังมีเหตุที่อ้างว่าทหารไทยได้ยิงพลเรือนเขมร มองว่าอาจเป็นเกมอย่างหนึ่ง อาจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อกลบข่าวที่จังหวัดสุรินทร์ก็ได้
ส่วนหลังจากนี้จะยังคงมีการกระทำที่ยั่วยุแบบนี้อีกหรือไม่นั้น พลโท บุญสิน กล่าวว่า ตนคิดว่าจะมีนัยยะพอสมควร ส่วนจะยังมีการยั่วยุอีกหรือไม่ก็ต้องรอดูว่าเจตนารมย์ของผู้นำเขานั้นมีวัตถุประสงค์ต้องการอะไร เช่นเหตุที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว น่าจะมีนัยยะพอสมควร
ส่วนจะมองว่าพื้นที่สระแก้ว จะลุกลามไปถึงพื้นที่กองทัพภาค 2 หรือไม่นั้น พลโทบุญสิน เผยว่า คงเป็นนโยบายของประเทศเดียวกันของเขมร ในความคิดของตนตามแนวชายแดนก็มีส่วนที่จะเชื่อมโยงสถานการณ์กัน และอาจจะมีส่วนหนึ่งที่ดึงความสนใจไปที่ประสาทตาควาย เพราะฉะนั้นทางรัฐบาลที่ได้ออกมาตอบโต้ในเรื่องของการงดปล่อยตัวเชลยศึก และการประณามต่างๆ ตนคิดว่าถูกต้องแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่คนกลางอย่างมาเลเซียพยายามที่จะให้ทั้งไทยและกัมพูชากลับมาเจรจากันอีกครั้ง มองว่าท่าทีของไทยควรเป็นอย่างไรต่อ พลโท บุญสิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน รัฐบาลเราเองก็ต้องเข้มแข็งด้วย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็อยากให้รัฐบาลไทยเข้มแข็งในระดับหนึ่ง เนื่องจากเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า บางสิ่งบางอย่างก็นำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติ
เมื่อถามว่าการไม่ปล่อยตัวเชลยศึกจะเป็นข้อต่อรองที่มีผลดีหรือไม่ดีกับไทยอย่างไร พลโท บุญสิน ระบุว่า เป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจของไทย การทำแบบนี้แล้วทำให้ลูกน้องเราเสียขาถือเป็นเหตุรุนแรง ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผล แม้จะกระทบต่อการเจรจาพอสมควร แต่ก็มีหนทางที่เราจะต้องคลี่คลายกัน ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และความต้องการของผู้นำเขมรด้วย ส่วนเราพร้อมอยู่แล้วในการที่จะเจรจาเพื่อสันติ ซึ่งต้องดูสถานการณ์ตามห้วงเวลา








