“เกาะกูด” กลับมาเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุล่าสุด ด้วยเหตุร้ายแรงเมื่อทหารไทยต้องสูญเสียขาจากการเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ที่กัมพูชานำไปวางแอบเอาไว้ในฝั่งไทย แล้วกระบวนการฉายหนังเก่าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เล่นบทเหยื่อของกัมพูชาก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง!!
น่าสนใจที่สุดคือการที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีพลังงาน ออกมาฉายภาพใหญ่จนทำให้ความขัดแย้งชายแดนรอบใหม่โยงไปสู่พื้นที่พลังงานมหาศาลในทะเล เขต OCA บริเวณเกาะกูด ซึ่งเป็นข้อพิพาทตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา พีระพันธุ์ชี้ว่า การที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายแดนตั้งแต่อุบลฯ ถึงตราด ไม่ว่าจะเป็นเหตุทหารบาดเจ็บ การปะทะ หรือการยิงข่มขู่ อาจเป็นสิ่งที่กัมพูชา “ตั้งใจอยากให้เป็น” เพราะเป้าหมายที่แท้จริงอยู่ที่หลักเขต 73 หลักเขตสุดท้ายก่อนลงสู่ทะเล!!
ถ้ากัมพูชาขยับหลักเขตนี้เข้ามาได้แม้เพียงเล็กน้อย เส้นเขตแดนทางทะเลจะขยับตามทันที และเมื่อเส้นทะเลขยับ ผลประโยชน์มหาศาลในพื้นที่ OCA ก็จะเอียงเข้ากัมพูชา
นี่คือเกมลึกที่ฝั่งไทย “รู้ แต่ไม่มีใครทำอะไรจริงจัง”
พื้นที่ OCA กว้างกว่า 26,000 ตร.กม. มีการประเมินว่ามีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองมหาศาล คิดมูลค่าได้ระดับหลายล้านล้านบาท หากถูกพัฒนาอย่างเป็นระบบ แต่ 52 ปีแล้ว ไทยไม่สามารถพัฒนาแม้แต่ส่วนเดียว ทั้ง ๆ ที่ไทยมีสิทธิอ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะเหตุใด?
เพราะไทยถูก “ตรึง” อยู่กับข้อพิพาทและการอ้างเส้นเขตแดนของกัมพูชาที่ลากขึ้นเองตามอำเภอใจมาตั้งแต่ปี 2516 รวมถึงการถมทะเลปี 2540 ที่อาจถูกใช้เป็นฐานอ้างว่าเป็น “ส่วนต่อเนื่องของแผ่นดิน” เพื่อเอื้อเส้นแบ่งเขตใหม่ พีระพันธุ์เตือนว่ากัมพูชาขยับเกมอยู่ฝ่ายเดียว
ขณะที่ไทยได้แต่ “ประท้วงตามฟอร์ม” นานเกือบสามทศวรรษ บันทึกความเข้าใจปี 2544 ระหว่างไทย–กัมพูชา ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่พิพาทให้เด็ดขาด
โดยแบ่งการเจรจาเป็น 2 ส่วน
1. การแบ่งเขตทางทะเล
2. การพัฒนาร่วมแหล่งปิโตรเลียม
แต่กว่า 24 ปีผ่านไปไม่เกิดความคืบหน้าใด ๆ ขณะเดียวกัน ข้อกังวลว่าอาจกระทบ “อธิปไตยเกาะกูด” ก็ยังเป็นปมร้อนที่ทำให้ทุกฝ่ายไม่กล้าผลักดันเดินหน้า ผลลัพธ์คือไทยถูก “ล็อก” ไว้กับข้อพิพาทที่ยืดเยื้อ ส่วนกัมพูชากลับได้ประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์จากการขยับเส้นอ้างสิทธิ์ของตัวเองไปเรื่อย ๆ
คำถามสุดท้ายของพีระพันธุ์ที่จี้กลางใจรัฐบาลคือ “กองทัพเรือพร้อมแล้ว…รออะไร?”
นี่คือคำถามที่ไม่ใช่ถามกองทัพเพียงลำพัง แต่ถามรัฐบาลทั้งหมด ถามระบบราชการ ถามฝ่ายยุทธศาสตร์ของไทยตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยจะปล่อยให้ทรัพยากรพลังงานมูลค่าหลายล้านล้านบาทอยู่ในสภาพ “แตะต้องไม่ได้” อีกกี่ปี?
เราจะปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามขยับเส้นเขตแดนตามอำเภอใจไปอีกแค่ไหน?
และฝ่ายการเมืองไทยจะยังใช้ข้อพิพาทนี้สร้างคะแนนความนิยมแทนที่จะหาคำตอบที่แท้จริงต่อไปอีกหรือไม่? ความขัดแย้งไทย–กัมพูชาครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องทหาร ไม่ใช่แค่เรื่องระเบิด ไม่ใช่แค่เกมการทูต แต่เป็น “สงครามพลังงาน” ที่ผูกกับอธิปไตย เส้นเขตแดน และผลประโยชน์ระดับล้านล้านบาท
พื้นที่ OCA คือหัวใจของความขัดแย้งทั้งหมด และการขยับหลักเขต 73 คือหมากที่กำลังถูกเดินอย่างเงียบ ๆ
หากไทยไม่จัดการปัญหานี้ด้วยยุทธศาสตร์ระดับชาติ ประเทศไทยอาจต้องสูญเสียทรัพยากรในทะเลไปอีกหลายทศวรรษ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคำถามของพีระพันธุ์จึงสะเทือนวงการเมืองมากกว่าครั้งใดที่ผ่านมา
#เกาะกูด #ชายแดนไทยกัมพูชา #OCA #พีระพันธุ์ #การเมืองไทย #เส้นเขตแดน #พลังงานทะเล #ข่าวการเมือง #วิเคราะห์การเมือง #วิกฤตชายแดน








