วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งหลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงเกิดฝนตกหนักได้ในเวลานี้ นายชัชชาติได้อธิบายถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า ที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไม่ได้เกิดจากน้ำเหนือ น้ำหนุน หรือฝนทั่วไป สาเหตุหลักมาจากฝนตกหนักในพื้นที่อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้กรุงเทพมหานครต้องใช้เวลาในการระบายน้ำและเกิดน้ำท่วมบางพื้นที่
โดยปริมาณฝนที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง หากปริมาณฝนที่ตกลงมาสะสมอยู่ระหว่าง 90 ถึง 100 มิลลิเมตร น้ำก็จะท่วมขังได้ ยกตัวอย่างกรณีเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ในพื้นที่เขตปทุมวัน มีปริมาณฝนตกลงมาสูงถึง 111 มิลลิเมตร ทำให้เขตปทุมวันมีน้ำท่วม ขณะที่เขตราชเทวีมีปริมาณฝนอยู่ที่ 97 มิลลิเมตร ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ 90 มิลลิเมตร ที่มีโอกาสน้ำท่วมขัง ไม่แตกต่างจากเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายที่มีปริมาณฝน 92 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่า 90 มิลลิเมตร ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมเช่นกัน ขณะที่พื้นที่อื่น ๆ เช่น เขตพญาไท และเขตห้วยขวาง ก็มีปริมาณฝนที่ตกสะสมลดหลั่นกันลงมา แต่ตัวเลขไม่แตกต่างจากพื้นที่ข้างต้นมากนัก โดย กทม. ใช้ทั้งสถานีสูบน้ำและเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ในการบริหารจัดการน้ำและเร่งระบายน้ำอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ปัจจัยทางสภาพอากาศที่ทำให้กรุงเทพฯ เผชิญกับฝนตกหนักในช่วงเวลานี้ มาจากลมหนาวกำลังแรงจากประเทศจีนทางตอนใต้ที่พัดลงมาปกคลุม ซึ่งลมหนาวนี้มาเจอเข้ากับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามา การปะทะกันของมวลอากาศเหล่านี้จึงส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
จากการพยากรณ์สภาพอากาศในวันนี้ (14 พ.ย.) กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ โดยมีการคาดการณ์ว่า พื้นที่ที่จะเจอฝนตกได้แก่ เขตฝั่งธนบุรี, หลักสี่, บางนา, พระนคร, ปทุมวัน และจตุจักร เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามเรดาร์ของ กทม. เพื่อประเมินช่วงเวลาและสถานการณฝนให้แน่ชัด








