วันที่ 12 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งประสบปัญหาฝนหลงฤดูตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่าย ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวนาที่เพิ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีและนำข้าวเปลือกมาตากไว้ตามลานปูนในหมู่บ้าน ข้าวเปลือกจำนวนมากที่ถูกตากไว้ได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลบ่าพัดพาไปลงสู่ที่ต่ำ ทั้งไหลลงท่อระบายน้ำ และป่าอ้อยข้างเคียง ทำให้ชาวนาต้องเผชิญกับความทุกข์ซ้ำสอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาข้าวก็ตกต่ำจนน่าใจหาย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านโคกก่อง ต.หนองวัวซอ พบชาวบ้านกำลังเร่งเก็บข้าวเปลือกที่ถูกน้ำท่วมอย่างโกลาหล บางรายใช้คราดกวาดกองข้าวเปลือกที่เหลือ บางรายต้องรีบนำถังสีกรอกข้าวเปลือกที่ยังพอเก็บได้ไปไว้ในที่ร่มเพื่อหนีฝนที่อาจจะตกมาอีก ส่วนข้าวเปลือกที่ไหลลงท่อและป่าอ้อยไปแล้ว ชาวบ้านต่งบอกว่าทำได้เพียงทำใจ
นางยุภารัตน์ พิมพ์โพธิ์ อายุ 51 ปี เล่าด้วยความเจ็บปวดว่า "เมื่อเช้าฝนตกแรงมาก รีบออกมาดูข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้ ได้แต่มองข้าวไหลไปกับสายน้ำบางส่วน" ตนเองทำนา 6 ไร่ เพิ่งเกี่ยวข้าวเหนียวเสร็จได้เพียง 1 วัน ได้ผลผลิตกว่า 5 ตัน แต่ฝนที่ตกมาอย่างหนักวันนี้ทำให้ข้าวเปลือกไหลลงป่าอ้อยและท่อระบายน้ำไปประมาณ 1 ตัน ข้าวที่ถูกฝนแบบนี้จะไม่ได้คุณภาพดี (ข้าวมู่) ทำให้ทุกข์ใจอย่างมาก
นางอุไรวรรณ ภูกันต์ อายุ 56 ปี กล่าวว่า "หัวใจจะวาย โทษใครก็ไม่ได้" ฝนตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้กอบกู้ข้าวไม่ทัน ข้าวเปลือก กข 100 ที่ปลูกได้ประมาณ 2 ตัน ถูกฝนจนเสียหาย "วันก่อนไปขายข้าวได้ 90 บาท ชาวนาทุกข์ใจมาก รัฐบาลเห็นแล้ววอนช่วยราคาข้าวให้ขึ้นทีเถอะ"
ป้าบัวศร อายุ 62 ปี กล่าวทิ้งท้ายสะท้อนวิถีชีวิตชาวนาว่า "เช้าวันนี้ฝนตกใส่ ไหลไปกับน้ำไม่เหลืออะไรเลย วันนี้มากวาดข้าวไปน้ำตาไหลก็ไหลไป คิดในใจทำไมมาเป็นแบบนี้น้อ" พร้อมเผยความรู้สึกว่าวิถีชีวิตชาวนาต้องเผชิญอุปสรรคมาตลอด ตั้งแต่น้ำท่วมช่วงหว่าน ไปจนถึงแล้งและน้ำท่วมช่วงข้าวโต พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็มาเจอฝนหลงฤดูซ้ำเติม แต่ถึงแม้ราคาข้าวจะไม่ดี ก็ต้องสู้กันต่อไป
#ภูมิภาค-66








