วันที่ 12 พ.ย.68 เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจในพื้นที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้รับแจ้งพบช้างป่าล้ม (ตาย) รวม 3 ตัว ภายในสวนผลไม้ของชาวบ้าน บริเวณหมู่ 9 บ้านคลองตาอิน ตำบลคลองพลู
รายงานเบื้องต้นจาก นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นสองช่วงเวลา โดยช้างตัวแรก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบช้างป่าล้มเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 11 พ.ย. 68 เป็นช้างป่าเพศผู้ ทราบชื่อคือ "พลายม้วน" ซึ่งเป็นช้างอาวุโส อายุประมาณ 30 ปี มีน้ำหนักตัวกว่า 5 ตัน
ช้างอีก 2 ตัว ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.30 น. เช้าวันนี้(12 พ.ย. 68) ได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่าพบช้างป่าล้มอีก 2 ตัว (เป็นเพศเมีย 1 ตัว และเพศผู้ 1 ตัว ตามข้อมูลที่ได้รับ) ห่างจากจุดที่พบพลายม้วนเพียงประมาณ 100 เมตร ซึ่งช้างทั้งสามเชือกคาดว่าเป็นสมาชิกในโขลงเดียวกัน
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คาดการณ์เบื้องต้นว่า ช้างป่าทั้ง 3 ตัว น่าจะเสียชีวิตจาก กระแสไฟฟ้าช็อต อย่างรุนแรง ซึ่งมีร่องรอยปรากฏบริเวณงวงและลำตัว โดยคาดว่ามาจากสายไฟหรือรั้วที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณริมสวนผลไม้ของชาวบ้าน เพื่อป้องกันการเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตร
หัวหน้าอุทยานฯ ได้ประสานไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เพื่อจัดส่งทีมสัตวแพทย์รวม 3 นาย เข้าพื้นที่เพื่อทำการ ผ่าพิสูจน์ซากช้างทั้งสามตัว อย่างละเอียด เพื่อยืนยันสาเหตุการตายอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้ประสานกับ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสอยดาว ให้ดำเนินการจัดทำบันทึกแจ้งความข้อหาดำเนินคดี เข้าข่ายกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้สัตว์ป่าซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองถึงแก่ความตาย ตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ความสูญเสียครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่ทวีความรุนแรงในภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการที่พื้นที่ป่าถูกจำกัดและพื้นที่เกษตรขยายตัวเข้าใกล้แนวป่ามากขึ้น
#ภูมิภาค-17








