แม่ร่ำไห้ร้อง ส.ส.พาลูกสาวถูกทำร้ายตายที่ปอยเปต วอนช่วยนำศพกลับบ้าน

​วันที่ 12 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมกับ นายอรรถพล ไตรศรี ส.ส.พังงา เขต 1 และผู้นำท้องถิ่น เข้าเยี่ยม นางอรอนงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ที่บ้านพักใน ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังได้รับแจ้งว่า นางสาวสุดา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี บุตรสาว ได้เสียชีวิตในลักษณะผิดปกติที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ขณะทำงานให้กับกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์

​นางอรอนงค์ ซึ่งป่วยขาหักและนอนติดเตียงมานานกว่า 3 ปี ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ลูกเขย (นายวายุ, สงวนนามสกุล, อายุ 20 ปี) ได้ติดต่อมาทางไลน์แจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว โดยอ้างว่าลูกสาว "ชักเกร็งขณะทำงาน" และนำส่งโรงพยาบาลปอยเปตก่อนจะเสียชีวิต ขณะนี้ศพอยู่ที่สถานีตำรวจพนมเปญ แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกเขยได้อีกเลย

​แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยกลับมาคลอดลูกที่บ้านเมื่อเดือนกรกฎาคม ก่อนที่ลูกเขยจะกลับไปทำงานก่อน และในเดือนสิงหาคม ลูกเขยได้ติดต่อให้ลูกสาวตามไปทำงาน โดยขู่ว่าจะทอดทิ้งไม่ส่งเสีย ลูกสาวจึงตัดสินใจทิ้งลูกน้อยไว้ให้ตนและน้องสาวช่วยดูแล
​ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าไม่อยากตามไปทำงานเลยเพราะถูกลูกเขยหลอกให้ไปทำงานสแกมเมอร์ ซึ่งเมื่อทำงานไม่เข้าเป้าก็จะถูกลงโทษ และเคยบอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว ทางครอบครัวรู้สึกกลุ้มใจเป็นอย่างมากเพราะไม่ทราบว่าจะติดต่อประสานงานได้อย่างไร จึงวอนขอให้ทุกฝ่ายช่วยติดต่อเพื่อนำร่างของลูกสาวกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน

​ด้าน นางสาว มลนภา (สงวนนามสกุล) ญาติผู้น้อง เปิดเผยว่า พี่สาวออกเดินทางไปทำงานสแกมเมอร์ที่ปอยเปตจริง โดยมีหน้าที่เป็นแอดมิน หลังทราบข่าวการเสียชีวิต ทางครอบครัวได้ติดต่อกับบริษัทที่พี่สาวทำงานอยู่ผ่านไลน์ ซึ่งทางบริษัทได้แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันและติดต่อไปยังหน่วยทหารที่อรัญประเทศ เพื่อที่บริษัทจะนำศพมาส่งให้ที่ชายแดน พร้อมมีการข่มขู่ว่าหากเรื่องนี้เป็นข่าวดังขึ้น ทางบริษัทจะทำลายศพให้ไร้ร่องรอย และเมื่อสอบถามถึงลูกเขย ทางบริษัทอ้างว่าได้ส่งกลับไทยแล้ว แต่ทางญาติก็ยังไม่สามารถติดต่อลูกเขยได้อีกเช่นกัน

​นายอรรถพล ไตรศรี ส.ส.พังงา กล่าวว่า เมื่อได้รับทราบความเดือดร้อน ก็รีบลงพื้นที่มาช่วยเหลือทันที โดยได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.โคกกลอย มาสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งการตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออกประเทศ และตรวจสอบตัวตนของลูกเขยอย่างละเอียด หากยืนยันว่าเสียชีวิตจริงในกัมพูชา ก็จะประสานงานผ่านกระทรวงแรงงานและกระทรวงต่างประเทศเพื่อหาทางนำศพกลับมาให้ครอบครัวทำพิธีทางศาสนาต่อไป

#ภูมิภาค-75