เมื่อเวลา 14.12 น. วันที่ 12 พ.ย. 68 ที่วัดท่าดินแดง ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยได้ทักทายประชาชนพร้อมกล่าวว่า วันนี้ถือว่ามาดูสถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดภาคกลาง แม้ว่าทุกท่านประสบสถานการณ์จากภัยน้ำท่วม ซึ่งปีนี้ยาวนานกว่าทุกๆปี คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบถึงปัญหาอย่างดี จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละท่าน ดูแลปัญหาน้ำท่วมตามเขตพื้นที่ในแต่ละจังหวัด พร้อมให้อำนาจในการตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนเร็วที่สุด ตนยอมรับว่าการบริหารจัดการเรื่องน้ำ เรายังมีความไม่สมบูรณ์ และยังมีอีกหลายจุดที่ต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งตนจะนำไปเร่งหาวิธีแก้ไข และเร่งอนุมัติให้โครงการทั้งหลาย เพื่อทำให้การไหลเวียนของน้ำ การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ไม่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน แม้ว่าเราจะสู้กับธรรมชาติได้ไม่ทั้งหมด แต่จะทำสุดความสามารถ เพื่อให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด
“ขอชื่นชมพ่อแม่พี่น้องที่เสียสละไร่นา เป็นพื้นที่รับน้ำ ไม่กระจายไปในพื้นที่เศรษฐกิจ ขอบคุณในความเสียสละ ทุกคนเครียด เจ็บปวด พวกผมอยู่ตรงนี้ มีความเจ็บปวดเหมือนกัน ยิ่งมาพบกับพ่อแม่พี่น้องในทางกายภาพ ความเป็นอยู่ แย่กว่าพวกผมแน่นอน อย่างน้อยบ้านในกรุงเทพฯ น้ำไม่ท่วม ที่นี่พี่น้องน้ำท่วมบ้านทุกคน แต่ยังมีรอยยิ้ม ขอให้มั่นใจผมดีใจที่เห็นพี่น้องยิ้มได้ แม้เจอสถานการณ์แบบนี้ แต่ยังให้กำลังใจผม ซึ่งไม่รู้จะพูดยังไง ผมขอย้ำว่าจะเร่งจัดการให้มีการอนุมัติโครงการให้เร็วที่สุด” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า ช่วงนี้ไม่น่าจะมีอะไรหนักๆเข้ามา จำนวนปริมาณฝนน่าจะลดน้อย คิดว่าปริมาณน้ำจะลดลงใน 1-2 สัปดาห์จะไม่ให้มีเหตุการณ์ที่ซ้ำเติมอีก และได้สั่งการแล้วให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง จัดงบประมาณช่วยเหลือเยียวยา เพิ่มเติมให้ 9,000 บาท ที่ได้แล้วก็แล้วไป แต่จะมีมาอีก ในส่วนที่บ้านเรือนจมมามากกว่า 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน 4 เดือน เป็นขั้นบันได โดยจะดูแลเป็นรายเดือนให้กับพ่อแม่พี่น้องและจะเร่งอนุมัติงบประมาณ ซึ่งเป็นอำนาจของตนล้วนๆ ในงบกลางที่สามารถนำมาช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดความเดือดร้อน ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน วันนี้ตนทำหน้าที่รับผิดชอบคุณภาพชีวิตพ่อแม่พี่น้องจะใช้อำนาจที่มีอยู่ทำสิ่งที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนให้หายไปให้มากที่สุด ขอให้รออีกไม่นานจะดูให้ครบทุกเดือนเป็นรายเดือนไม่เกิน 2 สัปดาห์เงินช่วยเหลือกลับมาถึงพ่อแม่พี่น้อง
“ผมมีภารกิจรัดตัวเพียงใดก็จะต้องมาพบกับพ่อแม่พี่น้อง เพื่อให้เห็นกับตาตัวเองว่าสถานการณ์น้ำท่วมหนักหนาสาหัสเพียงใด เวลาไปสั่งงาน แล้วเราเห็นหน้างานก็จะทำให้เราสามารถเพิ่มความคิดเข้าไป หรือว่าคอยเถียงเขา ถ้าเขาบอกมันไม่ใช่ เราก็จะได้บอกว่า นี่ไงผมไปเห็นมากแล้ว จะบอกไม่ใช่ได้อย่างไร ตอนเป็นรมว.มหาดไทยก็สั่งได้แค่นี้ วันนี้เป็นนายกฯ แล้วสั่งให้หมด ใครไม่ทำน่าดู ไม่กลัวอยู่แล้ว ปีหน้าต้องไปเลือกตั้ง เพราะวันที่ 31 ม.ค. 69 ยุบสภา คืนอำนาจให้กับพ่อแม่พี่น้อง ถ้าพวกเราทำงานไม่ดี ไม่ต้องเลือกกลับมา แต่ถ้าทำดีเลือกกลับมาให้ครบจะได้มาทำต่อ ท้ากันอย่างนี้ พี่น้องเป็นคนตัดสินใจ ผมตัดสินใจอนาคตพวกผมไม่ได้ ถ้าไม่เลือกผม ผมก็ต้องไปหางานทำ ไปขายของเซเว่น ไปขายของบิ๊กซี แมคโดนัลด์ หรือมานั่งขายสายไหม ขายก๋วยเตี๋ยว ไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมด ทำด้วยหัวใจที่มีอยู่ ทำด้วยความสำนึกที่พ่อแม่พี่น้องมีพระคุณกับพวกผม จะเลือกพวกผมมาเป็น สส. ทั้งหมด ถ้า สส. ทำงานให้กับประชาชนไม่ได้ก็อย่าไปเป็นเลย ไปขายเต้าฮวยดีกว่า ทำประโยชน์ได้มากกว่า ให้คนอื่นได้กินเต้าฮวยอร่อยบ้าง แต่ผมเชื่อว่าทุกคนมีเลือดเนื้อเชื้อไข นักการเมืองใหญ่ที่มีจิตใจ มีหัวใจที่ต้องการรับใช้ประชาชน" นายอนุทิน กล่าว
ต่อมานายกฯ มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ก่อนเดินไปมอบถุงยังชีพประชาชนที่พายเรือมารับถุงยังชีพ 3 ลำ








