ชาวบ้านแนวชายแดนสุรินทร์–พนมดงรัก เรียกร้องมาตรการเข้มหลังทหารได้รับบาดเจ็บจากระเบิด พร้อมเตรียมอพยพเปิดทางให้กองทัพปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัย
วันที่ 12 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหาร พร้อมเปิดเผยหลังจากที่ประชุมเสร็จสิ้นเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะทหารไทยที่เหยียบกับระเบิดจนขาขาด โดยได้มีคำสั่งระงบข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชา และให้ทางกระทรวงกลาโหมดำเนินการทางทหารในพื้นที่ตามแนวชายแดน ได้ตามสภาพการเต็มที่พร้อมทั้งมีการสั่งให้จังหวัดที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด เตรียมแผนพิทักษ์ส่วนหลังเพื่อรองรับ สถานการณ์ชายแดนหากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน
ทำให้บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการเผชิญหน้าของทหารทั้งสองฝ่ายตลอดเวลา ในขณะที่ชาวบ้านบริเวณแนวชายแดนขณะนี้ ก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่มีการติดตามข่าวสารต่างๆอย่างใกล้ชิด และหวาดหวั่นวิตกต่อสถานการณ์ในขณะนี้อยู่พอสมควร ซึ่งต่างเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เช่นข้าวที่กำลังได้เวลาเก็บเกี่ยวในขณะนี้ ซึ่งหากเกิดความรุนแรงขึ้นก็พร้อมที่จะอพยพออกจากพื้นที่ทันที เพื่อให้ทหารได้จัดการได้อย่างเต็มที่และให้เด็ดขาดไปเลย เพราะได้เตรียมความพร้อมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และเคยมีประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้ว จึงทำให้ครั้งนี้มีความพร้อมเป็นอย่างมากที่จะอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันที ขณะที่ชาวบ้านบ้างส่วนที่ที่บ้านมีผู้ป่วยติดเตียงก็ได้มีการเก็บข้าวของขนขึ้นรถไว้รอแล้ว
ป้าเล็ก ชาวบ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได และนางนิตยา แสงกล้า ชาวบ้านเขาโต๊ะ บอกว่า ตอนนี้ชาวบ้านก็ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติปกติ แต่ก็กังวลอยู่บ้างต่อสถานการณ์ในขณะนี้ ซึ่งผู้นำชุมชนก็ได้ประกาศให้เตรียมความพร้อมไว้ แต่ยังไม่ได้ให้อพยพ และไม่ให้ตื่นตระหนก แม้ว่าเราเคยมีประสบการณ์มาแล้วแต่ก็ยังกลัวเหมือนเดิม อยากให้จัดการให้เด็ดขาดให้จบไปเลย ชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติต่อไปและเอาปราสาทเรากลับมาให้ได้ ชาวบ้านพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อพยพเปิดพื้นที่ให้ทางทหารได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และก็ให้กำลังใจทหารทุกนาย ขอให้ปลอดภัยทุกนาย
ขณะที่นางวรรณเพ็ญ จงดี อายุ 64 ปี ชาวบ้านไทยนิยมพัฒนา ม.17 ต.บักได อ.พนมดงรัก ซึ่งที่บ้านมีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ 2 คน เป็นพ่ออายุ 93 ปี กับแม่อายุ 88 ปี บอกว่า ตอนนี้เตรียมเอาของขึ้นรถแล้ว เป็นพวกของใช้จำเป็นพวกเสื้อผ้าพวกผ้าห่ม สำหรับเรายังไงก็ได้ อยากให้มีรอบ 2 จะได้จบ เราจะได้ใช้ชีวิตแบบปกติสักที อยากให้มีมาก เพราะอยู่อย่างนี้มันอยู่แบบหวาดระแวง ทำมาหากินก็ไม่ปกติ ระแวงไปหมด ฝากถึงท่านที่มีอำนาจสูงสุด ที่จะสั่งให้ดำเนินการได้ให้ท่านตัดสินใจให้เด็ดขาดเถอะ ไม่ต้องไปประท้วง ไม่ต้องไปเซ็น ไม่ต้องอะไรอีกแล้ว สัญญาอะไรนั้นไม่ต้องแล้วแหละ
ขาที่เจ็ดแล้ว จะสัญญาให้หมดขาที่สิบ ที่สิบเอ็ด สิบสี่สิบห้าไปอีกเหรอ เห็นด้วยที่นายกฯยุติสัญญาข้อตกลงอันนั้นแล้ว และอยากให้มีคำสั่ง ให้ยิงให้ถล่ม ให้มันจบไปเลย เพราะเราอยู่แบบระแวงและหวาดกลัว แล้วเรามีผู้ป่วยด้วยเราไม่มีความสุขที่จะดำรงชีวิต อยากทำให้เด็ดขาดไปเลย และก็เอาปราสาทเราคืนมา ชาวบ้านที่อยู่แถบชายแดนพร้อมเสีย และให้ความร่วมมืออพยพเปิดพื้นที่ให้เต็มที่ ขอให้ได้ปราสาทและแผ่นดินไทยคืนมา พร้อมยกมือไหว้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักษ์รักษาให้ทหารไทยปลอดภัยทุกนาย
#ภูมิภาค-63








