"พล.ต.ท.ไตรรงค์" ยันใช้สิทธิ์ฟ้อง "บิ๊กโจ๊ก" ปมให้ร้ายองค์กรตำรวจ ย้ำทุกคดีโปร่งใส มีพยานหลักฐานชัดเจน พร้อมชี้แจงต่อสังคม
วันที่ 12 พ.ย.68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองจเรตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงชี้แจงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พาดพิงตนผ่านรายการหนึ่ง พร้อมกล่าวอ้างว่าแก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดคือตำรวจว่า ตนเองขอใช้สิทธิ์ในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการให้ร้ายตนเองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันก็พร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหาเพื่อยืนยันความโปร่งใสในการทำคดี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ชี้แจงประเด็นแรกเกี่ยวกับคดีของ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ที่ถูกกล่าวหาว่าตำรวจชุดจับกุมมีการกลับคำให้การและให้ความช่วยเหลือ โดยท่านยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ปัจจุบันศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ตำรวจ PCT 4 ยังคงดำเนินการคดีนี้อย่างต่อเนื่องใน 3 ท้องที่ คือ สภ.สงขลา ในข้อหา พ.ร.บ.เว็บพนัน และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน, สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดี พ.ร.บ.เว็บพนัน และ สน.เพชรเกษม มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ พ.ร.บ.เว็บพนัน เพิ่มเติม ซึ่งการจับกุมทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ นอกจากนี้ในเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าทำคดีหลายเรื่องแต่ไม่เป็นผล เช่น คดีบอสตาล พล.ต.ท. ไตรรงค์ เปิดเผยข้อเท็จจริงว่ามีการจับกุมโดยใช้เวลาสืบสวนเกือบ 1 ปี และศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกบอสตาลจริง แต่เนื่องจากผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ ศาลจึงลดโทษให้เหลือจำคุกเพียง 8 เดือน ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็มีคำสั่งอายัดทรัพย์ชั่วคราวและส่งฟ้องในคดีแพ่งแล้ว
ส่วนคดีสำคัญที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคือคดีเว็บพนันมินนี่ และคดี BNK Master นั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ชี้แจงว่า คดีนี้ถูกกล่าวหาว่ามีการช่วยเหลือมินนี่ แต่ข้อเท็จจริงคือตำรวจได้ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้ทำผิดหลายคน รวมถึงคนใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยเริ่มจากการสืบสวนและจับกุมเว็บพนันในพื้นที่ภาคอีสานช่วงต้นปี 2566 จนพบว่าเว็บพนันมีชื่อมินนี่จึงออกหมายจับมินนี่กับพวก 3 คน และขยายผลออกหมายจับคนใกล้ชิดพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อมาชุดสืบสวนยังพบว่าเว็บพนันมินนี่มีการเปลี่ยนชื่อ จึงออกหมายจับอีกครั้งในข้อหาเว็บพนันออนไลน์และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งอัยการอยู่ระหว่างการตรวจสอบแล้ว สำหรับคดี สจ.กอล์ฟ หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายตำรวจ พลเมืองดีได้ส่งข้อมูลเว็บพนันที่เกี่ยวข้องกับ สจ.กอล์ฟ มาให้ ตำรวจ สภ.สงขลา จึงสืบสวนและออกหมายจับ สจ.กอล์ฟกับพวกหลายสิบคน จากนั้นพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการคดีพิเศษแล้วตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
ในประเด็นผลการปฏิบัติงานเมื่อครั้งที่ตนเองเป็นผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการช่วยเหลือเว็บพนัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ขณะนั้นการจับกุมคดีเว็บพนันสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมแล้วกว่า 2,000 คดี พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท และปิดกั้นเว็บพนันไปกว่า 140,000 URL หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่ต้องมาแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์เป็นการยืมมือของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ท่านระบุว่าตนเองแถลงข่าวทุกที่ แต่ประทับใจที่นายสนธิมีการขุดคุ้ยความจริงในหลาย ๆ เรื่อง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังมองถึงการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จับมือกันโยนระเบิดใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุว่าอาจมาจากเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และตำรวจชุด PCT 4 ที่ตนเคยกำกับดูแล ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา ปัจจุบันคดีนี้อยู่ในชั้น ป.ป.ช. และกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อาจทำให้เกิดการโจมตีองค์กรนั้นว่า การพูดว่า “ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรม“ เป็นการพูดเหมารวมที่ไม่เหมาะสม เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เหมือนองค์กรทั่วไปที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ตำรวจที่ดีและตั้งใจทำงานมีอยู่มาก ดูได้จากสถิติการลงทัณฑ์ทางวินัย 3 ปี ย้อนหลัง มีตำรวจถูกลงทัณฑ์กว่า 5,000 นาย และลงโทษถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออกกว่า 900 นาย ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริงจังกับการปราบปรามคนผิด พร้อมเน้นย้ำว่าตนเองเปิดใจรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด แต่ช่วงหลังเห็นว่าการพูดข้อมูลเท็จถี่ขึ้นและมีการผลิตซ้ำอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวจึงยืนยันจะขอสงวนสิทธิ์ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในเรื่องนี้








