"อรรถกร" รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจช่วงการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ ที่ประเทศไทย จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 5,285,000,000 บาท และเพิ่มการจ้างงานในด้านต่าง ๆ ได้กว่า 12,000-14,000 อัตรา
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย โดยใช้ 3 เมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า กีฬาซีเกมส์เป็นมหกรรมการแข่งขันของชาติในภูมิภาคอาเซียนและได้รับการยอมรับในระดับเอเชียว่ามีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้มหกรรมกีฬารายการอื่น ๆ ดังนั้นการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ดี และใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ กระตุ้นการจ้างงานเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง, งานบริการ, งานขนส่ง และงานกีฬา โดยเชื่อว่าจะมีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 12,000-14,000 อัตรา
"ยังจะมีนักกีฬาและผู้ฝึกสอน ตลอดจนผู้ติดตามจากชาติอาเซียนเดินทางมายังประเทศไทยอีกไม่ต่ำกว่า 12,000 คน ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะหมุนเวียนในช่วงจัดการแข่งขันในทุกจังหวัดเจ้าภาพและจังหวัดใกล้เคียง การจับจ่ายใช้สอยของคนเหล่านี้เป็นไปในรูปแบบของสปอร์ตทัวร์ริซึม ที่ช่วยกระตุ้น ทั้งกีฬา และการท่องเที่ยว ไปในตัว จะทำให้เรามีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศจำนวนมหาศาล" นายอรรถกร กล่าว
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 นอกจากมีมติเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณในการจัดการแข่งขันแล้ว ยังระบุถึงประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับการจากการเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 รายการ ได้แก่ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมอาเซียน, แสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา, สร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬาไทย และเยาวชน และนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าเหรียญทอง รวมทั้ง มีการประมาณการมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไว้ 5,285,000,000 บาท








