"สุดารัตน์" เตือนภัย "ทุนดำสแกมเมอร์" แทรกแซงการเมืองไทย ฟอกเงินผ่านพรรคการเมือง หวังยึดประเทศด้วยเงินซื้อเสียงเรียกร้องประชาชนไม่เลือกนักการเมืองชั่ว จี้รัฐบาลต้องเร่งปราบขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.68 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแทรกซึมของ “ทุนดำ” และขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งมีพฤติกรรมปล้นเงินจากประชาชนไทยและทั่วโลก ผ่านการหลอกลวงออนไลน์และธุรกรรมผิดกฎหมาย โดยมีมูลค่าความเสียหายปีละหลายแสนล้านบาท และกำลังพยายามฟอกเงินผ่านการเมืองไทย เพื่อยึดประเทศอย่างเป็นระบบ
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ด้วยเงินเพียง 20,000 ล้านบาทจากกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นทุนดำที่ปล้นคนไทยไปหลายแสนล้านบาท ร่วมกับนักการเมืองชั่วบางกลุ่ม ขบวนการเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้ามามีอิทธิพลทางการเมืองได้อย่างน่ากลัว ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา กัมพูชาได้กลายเป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ที่ใช้หลอกและปล้นเงินจากผู้คนทั่วโลก รวมถึงมีการหลอกแรงงานไทยและต่างชาติเข้าไปทำงานในเครือข่าย มีการซ้อมทรมานและเสียชีวิต เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จนทั่วโลกเรียกกันว่า “สแกมโบเดีย”
เงินจำนวนมหาศาลที่ได้จากการปล้นนี้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ “ฟอกขาว” หรือการ #ฟอกเงิน (Money Laundering) ซึ่งประเทศไทยกลับกลายเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรข้ามชาติ เนื่องจากระบบการตรวจสอบและกฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้ไทยกลายเป็น “สวรรค์ของอาชญากร” และเป็น “ศูนย์กลางการฟอกเงิน” ของขบวนการสแกมเมอร์ทั่วภูมิภาค
เมื่ออาชญากรเหล่านี้เข้ามาทำธุรกิจฟอกเงินในประเทศไทย ย่อมต้องจ่ายสินบนให้กับผู้มีอำนาจบางราย โดยเฉพาะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับการคุ้มครองหรือการหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย จึงก่อให้เกิดขบวนการ “ทุนดำ” ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลครอบงำระบบการเมือง
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยระบุเพิ่มเติมว่า กลุ่มทุนดำเหล่านี้ไม่ได้เพียงฟอกเงินผ่านช่องทางเดิม เช่น การซื้ออสังหาริมทรัพย์ หมู่บ้านจัดสรร หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย สกุลเงินดิจิทัล หรือทองคำเท่านั้น ซึ่งล้วนส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งและกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอย่างรุนแรง แต่ยังพัฒนาเป็นรูปแบบใหม่ที่น่ากลัวกว่าเดิม คือการฟอกเงินผ่านกระบวนการทางการเมือง
คุณหญิงสุดารัตน์เตือนว่า ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อาจมีการใช้ “เงินทุนดำ” เข้ามาซื้อเสียงและควบคุมพรรคการเมือง เพื่อยึดประเทศไทยอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีรายงานว่าขบวนการดังกล่าวเตรียมใช้งบประมาณไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางราย หัวละ 50–70 ล้านบาท เพื่อซื้อตัวและซื้อเสียงในการเลือกตั้ง
“หายนะของประเทศจะมาถึงแน่ หากคนไทยไม่พร้อมใจกันลุกขึ้นสู้” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนไม่เลือกนักการเมืองที่ซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด เพราะเงินที่นำมาแจกนั้นคือเงินที่ปล้นจากคนไทยเอง เธอย้ำว่าประชาชนสามารถรับเงินได้ เพราะเป็นเงินของพวกเราที่ถูกปล้นไป แต่ต้องไม่กากบาทให้กับนักการเมืองชั่วที่เอาเงินสกปรกมาซื้ออำนาจ เพื่อกลับมาโกงชาติและประชาชนต่อไป
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยยังเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ที่ซุกซ่อนอยู่ในประเทศไทย รวมถึงนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การคุ้มครองขบวนการเหล่านี้ โดยต้องสั่งอายัดทรัพย์ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และดำเนินคดีอาญากับทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและนานาชาติ เพื่อสกัดเส้นทางทุนดำไม่ให้กลับมาทำลายประเทศอีก
คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า หากประเทศไทยไม่รีบดำเนินการอย่างจริงจัง ขบวนการทุนดำจะกลายเป็นผู้ครอบงำการเมือง เศรษฐกิจ และระบบราชการไทยอย่างเบ็ดเสร็จ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศในละตินอเมริกา ซึ่งอาจนำไปสู่ความพังพินาศทั้งระบบของชาติ








