วันที่ 2 พ.ย.2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่า พรรคเพื่อไทยในวันนี้ ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในฐานะ สถาบันทางการเมืองของประเทศ ที่มีความเข้มแข็ง เป็นระบบ และเติบโตเคียงข้างประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย พรรคเพื่อไทยไม่เพียงแต่เป็นพรรคการเมือง แต่คือพลังแห่งความหวังของคนไทยทั้งประเทศ ที่มุ่งมั่นจะสร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ
การได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในทุกด้านของพรรคเพื่อไทย ทั้งในเชิงนโยบาย การจัดการ และทิศทางทางการเมือง พรรคเพื่อไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการคิดและกำหนดนโยบายที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ยึดมั่นในประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักสูงสุด เพราะ พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า การเปลี่ยนผ่านสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเทศให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะนำเสนอแนวนโยบายที่จับต้องได้ เป็นไปได้จริง และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง การผลักดันนวัตกรรมเพื่ออนาคต การสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ก้าวนำโลก
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า รัฐบาลกำลังเผชิญกับปัญหาสแกมเมอร์ ทุนเทา-ดำข้ามชาติ ความมั่นคงชายแดน จะเป็นจุดเปราะบางรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ประชาชนจับตามอง และอาจเป็นจุดตายรัฐบาล ขณะนี้ภายในพรรคมีการหารือกันอย่างรอบคอบ โดยมี 2 แนวทางหลัก คือ กลุ่มที่เห็นว่าควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการบริหารงานที่ไร้เสถียรภาพ ขณะที่อีกกลุ่มเห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกไทม์ไลน์ในบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างฝ่ายค้ำและรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วดีลดังกล่าวมิได้นำพาประโยชน์ใด ๆ มาสู่ประเทศชาติและประชาชน
“พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วในทุกมิติ ไม่ว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นเมื่อใด พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแรกที่มีความพร้อมส่งผู้สมัครคุณภาพทั่วประเทศ และพร้อมนำประเทศไทยกลับคืนสู่เส้นทางแห่งโอกาส ด้วยความเชื่อมั่นเต็มหัวใจว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาบริหารประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไปได้ไกลกว่าที่เคยเป็นมาอีกครั้งหนึ่ง” นายอนุสรณ์ กล่าว








