วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ได้มีการเริ่มบังคับใช้มาตรฐานควันดำรถยนต์ดีเซลใหม่ ตามที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเป็นการยกระดับการควบคุมมลพิษทางอากาศ และลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จากยานยนต์ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น การปรับมาตรฐานครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน และมุ่งเน้นควบคุมมลพิษที่เกิดจากภาคการจราจร ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักลำดับต้น ๆ ของการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ที่เก่ากว่ามาตรฐานยูโร 5
ค่ามาตรฐานควันดำรถยนต์ดีเซลที่ถูกปรับใหม่นี้ กำหนดให้ต้องไม่เกิน 20% ซึ่งเป็นการปรับเข้มขึ้นจากค่ามาตรฐานเดิมที่เคยกำหนดไว้ไม่เกิน 30% การปรับลดค่ามาตรฐาน 10% นี้ มีจุดประสงค์เพื่อลด PM2.5 ที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์
สำหรับบทลงโทษที่ประชาชนผู้ใช้รถยนต์ดีเซลควรรู้ มีความเข้มงวดตามกฎหมาย หากรถยนต์ถูกตรวจพบว่าปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐานที่ 20% จะมีมาตรการลงโทษ โดยจะถูกติดสติกเกอร์ "ห้ามใช้ชั่วคราว" และเจ้าของรถจะต้องนำรถไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลา 30 วัน มาตรการนี้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 นอกจากนี้ ยังมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 อีกด้วย
ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่นำรถไปแก้ไขให้แล้วเสร็จตามกำหนด เมื่อถูกเรียกตรวจซ้ำก็จะถูกออกคำสั่ง "ห้ามใช้เด็ดขาด" ทันที
เพื่อร่วมสร้างอากาศที่สะอาดและหลีกเลี่ยงบทลงโทษ ผู้ขับขี่สามารถดูแลรักษารถง่าย ๆ เพื่อลดควันดำและช่วยลด PM2.5 ได้ด้วยตนเอง 5 วิธี ได้แก่ การตรวจเช็กหัวฉีดและปรับจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง การชำระล้างสิ่งสกปรกในท่อไอเสีย การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด การทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ และการตรวจเช็กซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากประชาชนพบเห็นรถยนต์ที่มีการปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน สามารถแจ้งปัญหาดังกล่าวได้ที่ Traffy Fondue








