ย้อนรอยมหากาพย์อื้อฉาวที่เขย่า "ราชวงศ์วินด์เซอร์" จนแทบทรุด! นี่คือเรื่องราวของ "เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก" โอรสองค์โปรดของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้เคยเฉิดฉายในฐานะเจ้าชายนักรบแห่งสงครามฟอล์กแลนด์ แต่ทุกอย่างกลับดิ่งลงเหวเพราะมิตรภาพต้องห้ามกับ "เจฟฟรีย์ เอปสไตน์" อภิมหาเศรษฐีผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพ่อค้ากามเด็ก!
จุดเริ่มต้นแห่งหายนะย้อนกลับไปในช่วงต้นยุคปี 2000 กว่าๆ เมื่อเจ้าชายแอนดรูว์เริ่มสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเอปสไตน์และ กีแลง แม็กซ์เวลล์ คู่หูคนสำคัญ พวกเขาใช้ชีวิตหรูหราตามสไตล์เหล่าอีลิต ภาพถ่ายเจ้าชายกับเอปสไตน์ในที่พักส่วนตัวเริ่มถูกจับตามอง แต่ความสัมพันธ์นี้ก็ดำเนินไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งปี 2008 เมื่อเอปสไตน์ยอมรับสารภาพผิดในข้อหาเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีผู้เยาว์ และถูกจำคุกระยะสั้นๆ ในตอนนั้น เจ้าชายแอนดรูว์อ้างว่าได้ตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้ว ทว่าความจริงกลับเป็นคนละอย่าง!
ทั่วโลกต้องช็อกอีกครั้งในปี 2010 เมื่อมีภาพถ่ายหลุดออกมาเป็นหลักฐานมัดตัว เจ้าชายแอนดรูว์ โดยเป็นภาพที่กำลังเดินกับเอปสไตน์ในเซ็นทรัลพาร์ก นครนิวยอร์ก ทั้งที่เอปสไตน์เพิ่งพ้นคุก! จุดนี้เองที่ทำให้เจ้าชายถูกกดดันจนต้องลาออกจากตำแหน่งผู้แทนพิเศษด้านการค้าของสหราชอาณาจักรในปี 2011
แต่แรงกระแทกที่รุนแรงที่สุดมาถึงในปี 2019 เมื่อเอปสไตน์ถูกจับกุมอีกครั้งในคดีค้ากามเด็กที่ซับซ้อนกว่าเดิม และจบชีวิตลงอย่างมีปริศนาในห้องขัง! ชื่อของเจ้าชายแอนดรูว์ก็ถูกลากเข้าสู่ศูนย์กลางของพายุ เมื่อ เวอร์จิเนีย จิฟเฟร เหยื่อคนสำคัญของเอปสไตน์ออกมาเปิดโปงอย่างกล้าหาญว่า เธอถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายแอนดรูว์ถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่เธออายุเพียง 17 ปี! แม้เจ้าชายจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่การให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว เมื่อปลายปี 2019 ที่เขาดูเหมือนจะไม่แสดงความเห็นใจต่อเหยื่อและพยายามแก้ตัวอย่างตะกุกตะกัก ก็กลายเป็น "หายนะทางประชาสัมพันธ์" ครั้งใหญ่ที่ทำให้ราชวงศ์ทนไม่ไหว ต้องสั่งให้พระองค์ยุติบทบาทในฐานะสมาชิกราชวงศ์ทั้งหมด!
จากนั้นในปี 2022 คดีก็พุ่งถึงจุดเดือด เมื่อจิฟเฟรยื่นฟ้องทางแพ่งต่อเจ้าชายแอนดรูว์ในนิวยอร์ก แม้สุดท้ายเจ้าชายจะยอมทำข้อตกลงประนีประนอมยอมความนอกศาลด้วยการจ่ายเงินก้อนโตโดยไม่ยอมรับผิด แต่ความเสียหายต่อพระเกียรติยศก็มิอาจประเมินค่าได้ และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงตัดสินใจปลดเจ้าชายออกจากตำแหน่งทางทหารและไม่อนุญาตให้ใช้ฐานันดรศักดิ์ "His Royal Highness" ในที่สาธารณะ
มาถึงปัจจุบันในปี 2025 เรื่องราวนี้ก็ยังไม่จบสิ้น เมื่อมีหลักฐานใหม่และหนังสือบันทึกความทรงจำหลังการเสียชีวิตของเวอร์จิเนีย จิฟเฟร ถูกเผยแพร่ ทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลจากทั้งสาธารณชนและสื่อมวลชนต่อ "พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3" กษัตริย์องค์ปัจจุบัน จนนำมาสู่การตัดสินใจที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ นั่นคือการ "ริบยศเจ้าชาย" และฐานันดรศักดิ์ที่เหลือทั้งหมด รวมถึงตำแหน่ง "ดยุกแห่งยอร์ก" ในวันที่ 30 ตุลาคม 2025
นอกจากนี้ "แอนดรูว์" ถูกสั่งให้ออกจากที่ประทับ Royal Lodge ใกล้ปราสาทวินด์เซอร์ และให้ใช้ชื่อเป็นเพียง "แอนดรูว์ เมานต์แบตเทน-วินด์เซอร์" ในฐานะพลเมืองธรรมดา นี่คือจุดจบที่น่าตกตะลึงของเจ้าชายที่เคยอยู่แถวหน้าของราชวงศ์ สู่สถานะสามัญชนผู้ต้องต่อสู้กับข้อกล่าวหาฉาวที่กัดกินเกียรติยศของพระองค์และสั่นสะเทือนสถาบันกษัตริย์ไปทั่วโลก!
#เจ้าชายแอนดรูว์ #PrinceAndrew #JeffreyEpstein #คดีค้ากามเด็ก #ถอดยศเจ้าชาย #ราชวงศ์อังกฤษ #RoyalScandal #ข่าวต่างประเทศ #AndrewEpstein








