นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง "คำขออภัยโทษซ้ำของทักษิณ กับ การตีความกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม" ความว่า
ถาม คำขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ ในโทษ ๑ ปี ที่ศาลมีคำสั่งให้กลับไปถูกคุมขังให้ครบนั้น วันนี้คำร้องนี้ไปอยู่ตรงไหนแล้วครับ
ตอบ สำนักเลขา ครม. ส่งคืนไปให้กระทรวงยุติธรรมทบทวนแล้วยื่นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง เห็นรัฐมนตรีท่านตั้งคณะทำงานพิจารณาโดยเร็วแล้วครับ
ถาม ปัญหาที่ต้องพิจารณามันอยู่ตรงไหนบ้างครับ
ตอบ ปัญหาข้อแรกคือความชอบด้วยกฎหมายของคำร้อง ตรงนี้ถ้าฝ่ายบริหารเห็นว่าผิดกฎหมายก็ยกคำร้องไปได้เลย ไม่ต้องส่งคำร้องไปที่วัง ข้อสองถ้าคำร้องถูกต้องก็เหลือแต่ดุลพินิจเท่านั้นว่าสมควรอภัยโทษหรือไม่เพียงใด ตรงนี้เป็นพระราชอำนาจโดยแท้ รัฐมนตรียุติธรรมได้แต่ถวายความเห็นของตนแนบท้ายไปเท่านั้น
ถาม สมัยรัฐมนตรีทวี สอดส่อง รับคำร้องแล้วเห็นเป็นอย่างไร
ตอบ เค้าเห็นว่าคำร้องถูกต้อง ส่วนการถวายความเห็นประกอบดุลพินิจในหลวงนั้น เค้าเสนอให้ยกคำร้อง เพราะโทษ ๑ ปีนี้มีคำสั่งศาลฎีกาสำทับไปแล้วว่าให้นำไปคุมขังให้ครบ ซึ่งมาวันนี้ถ้ารัฐบาลใหม่เห็นด้วย ก็ต้องนำขึ้นกราบบังคมทูลต่อไป ผลจะเป็นอย่างไร จะทรงยกคำร้อง หรือจะทรงอภัยให้ ก็เป็นพระราชอำนาจ
ถาม เห็นอาจารย์ให้ความเห็นว่า คำร้องทักษิณ เป็นคำร้องในโทษเดิม ที่ทรงอภัยให้มาแล้ว ๗ ปี เหลือ ๑ ปี ทักษิณจะมาตื๊อร้องซ้ำอีกไม่ได้
ตอบ ร้องไม่ได้ครับ คำร้องนี้ต้องถูกยกในชั้นฝ่ายบริหารเลย ไม่ต้องส่งเข้าวังอีก คือพระราชอำนาจนี้ รัฐธรรมนูญรับรองไว้ก่อน แล้วประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ก็มาบัญญัติขั้นตอนไว้อีกทีครับว่า ถ้าเป็นโทษประหารชีวิตก็บัญญัติให้มีคำขอได้ครั้งเดียว ยุติอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ส่วนโทษจำคุกนั้น ก็บัญญัติไว้ว่า
“ มาตรา ๒๖๔ เรื่องราวขอพระราชทานอภัยโทษอย่างอื่น ซึ่งมิใช่โทษประหารชีวิต ถ้าถูกยกหนหนึ่งแล้วจะยื่นใหม่อีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นสองปีนับแต่วันถูกยกครั้งก่อน “
ถาม หลักคิดในมาตรานี้ มันเป็นอย่างไรครับ
ตอบ น่าจะเป็นว่า หลักทั่วไปคือห้ามร้องซ้ำเหมือนกัน จะลงเอยอย่างไรก็ยุติตามนั้น แต่ก็มาเห็นใจกันว่า สำหรับคำร้องที่ถูกในหลวงยกคำร้องนั้น น่าสงสารอยู่บ้าง ก็เลยบัญญัติไว้ในมาตรานี้ว่า ให้รอผ่านไปอีกสองปี ก็ร้องขอพระกรุณาได้อีกครั้งหนึ่ง
ถาม กรณีคุณทักษิณ โดนหมายขัง ๘ ปี ยื่นคำร้องแล้วทรงพระกรุณาลดให้ ๗ ปี ดังนี้ก็ขออีกไม่ได้สิครับ
ตอบ ไม่ได้ครับ คำร้อง ๘ ปีนั้น ทรงพระกรุณาให้แล้วเป็นลดโทษ ๗ ปี ไม่ได้ถูกยกหรือถูกปฏิเสธ กรณีจึงไม่เข้า มาตรา ๒๖๔
ถาม ทางกระทรวงยุติธรรมเห็นอย่างไร
ตอบ อธิบดีราชทัณฑ์ท่านเห็นเหมือนกับผมก่อนว่า กรณีไม่เข้ามาตรา ๒๖๔ เพราะไม่ได้ถูกยกคำร้อง แต่แล้วท่านกลับสรุปต่อไปว่า เมื่อไม่เข้า ๒๖๔ เงื่อนเวลาสองปีย่อมไม่เอามาใช้ ทักษิณจึงมีสิทธิร้องขออภัยโทษได้โดยพลันเลย เพราะคำร้องขออภัยโทษนี้เป็นสิทธิทั่วไปที่นักโทษร้องได้เสมอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
ถาม หมายความว่า อธิบดีเค้าไม่เอาหลักห้ามร้องซ้ำมาใช้ ใช่ไหมครับ
ตอบ ครับ ทางผมนั้นเห็นว่าหลักห้ามร้องซ้ำนี้มันมีเป็นหลักทั่วไปของกฎหมาย ถ้าไม่เข้ามาตรา ๒๖๔ ก็ร้องไม่ได้ ส่วนอธิบดีราชทัณฑ์ท่านเห็นต่างไปว่า ถ้าไม่มีกฎหมายห้ามแล้ว ย่อมร้องแล้วร้องอีกได้เสมอ
ถาม น่าปวดหัวจังเลยครับ มีความเห็นที่สาม อีกไหมนี่
ตอบ มีครับ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ท่านลากความเห็นมาอีกแนวเลยครับว่า ร้องได้ตามมาตรา ๒๖๔ เพราะนับจากวันที่ทักษิณยื่นคำร้อง ในสิงหาคม ๒๕๖๖ มาถึงวันนี้นั้น เวลามันเกินสองปีแล้ว มาตรา ๒๖๔ จึงเปิดให้ทักษิณยื่นคำร้องได้แล้ว
ถาม มาทางนี้ถูกไหมครับ
ตอบ มาตรา ๒๖๔ เป็นเรื่องเห็นใจนักโทษนะครับว่า แม้จะถูกยกคำร้อง แต่ให้อดทนติดคุกอีกหน่อยเถิด พอครบ สองปีค่อยร้องได้อีกครั้ง หลักคิดอย่างนี้มันหมายความว่า สองปีที่ผ่านมา ทักษิณได้อดทนติดคุกมาพอแล้วจึงให้ร้องขอได้อีก แล้วคุณว่า สองปีที่ผ่านมานี้ ทักษิณเค้าได้ติดคุกมาเท่าไหร่แล้ว
ถาม ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วนี่ครับว่า การส่งตัวไปนอนโรงพยาบาลตำรวจนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีการสมคบช่วยเหลือกันไม่ให้ต้องติดคุก ดังนั้นจะถือเอาเวลาที่ผ่านมาเป็นการคุมขังไม่ได้ ท่านก็เลยสั่งให้กลับไปติดคุกให้ครบ ๑ ปี
ตอบ เมื่อศาลบอกว่าถือเวลาที่ผ่านมาเป็นเวลาคุมขังไม่ได้ ปลัดกระทรวงท่านก็จะนับเอาเวลาเหล่านั้นมานับเป็นเงื่อนเวลา ๒ ปี ตามมาตรา ๒๖๔ ไม่ได้ ความเห็นนี้ของท่าน จึงไม่น่าจะถูกต้อง
ถาม ทำไมกฎหมายมันสะดิ้งจังเลยครับ ดิ้นไปดิ้นมา ตีความกันได้ถึงสามแนวแบบนี้
ตอบ พ่อหลวงท่านเคยสอนไว้นะครับว่า กฎหมายที่อ่านกันเป็นมาตราๆนั้น แท้จริงมันมาจากความถูกต้อง ถ้ารู้ถูกรู้ผิดก็จะใช้กฎหมายได้ถูกต้องตรงกับความยุติธรรมเสมอ
ถาม สรุปแล้วอะไรสะดิ้งครับ
ตอบ นักกฎหมายครับ
#ทักษิณ #แก้วสรร #อภัยโทษ #กระทรวงยุติธรรม #การเมืองไทย #สยามรัฐ #ข่าวร้อนวันนี้ #ข่าวการเมือง #Thaksin #ข่าวด่วน