สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2568 ว่าเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญบริเวณ โบสถ์ยิว Heaton Park Hebrew Congregation ย่านครัมป์ซอลล์ โดย "คนร้าย" ได้ขับรถยนต์พุ่งชนประชาชน ก่อนจะใช้มีดไล่แทงผู้คน ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตไป 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย
เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ชุมชนชาวยิวกำลังประกอบพิธีในวัน "ยมคิปปูร์" ซึ่งถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวยิว ตำรวจนครบาลเกรทเทอร์แมนเชสเตอร์ (GMP) ยืนยันว่า "ผู้ต้องสงสัย" ซึ่งเป็นชายผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่อาวุธปืน "วิสามัญฆาตกรรม" แล้ว โดยเสียงปืนที่ดังขึ้นในที่เกิดเหตุ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเข้าควบคุมรถของผู้ก่อเหตุเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังระบุว่าพบ "วัตถุต้องสงสัย" รอบตัวชายผู้ก่อเหตุ ทำให้ต้องประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบในทันที ขณะที่ผู้ที่อยู่ภายในโบสถ์ช่วงเกิดเหตุถูกกักบริเวณเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะอพยพออกในภายหลัง
ภาพจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นประชาชนตะโกนเตือนเจ้าหน้าที่ว่าผู้ต้องสงสัยอาจมี "ระเบิดติดตัว" ซึ่งสอดคล้องกับการปรากฏตัวอย่างรวดเร็วของรถตู้เก็บกู้วัตถุระเบิดที่มีป้าย “Bomb Disposal” เข้าสู่พื้นที่หลังแนวป้องกันอย่างเร่งด่วน
แอนดี้ เบิร์นแฮม นายกเทศมนตรีเมืองเกรทเทอร์แมนเชสเตอร์ เปิดเผยว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตคาดว่าเป็น "เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย" ของโบสถ์ที่ถูกทำร้ายด้วยมีด พร้อมย้ำว่า “อันตรายเฉพาะหน้าดูเหมือนจะจบลงแล้ว” ด้าน เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับถึงสหราชอาณาจักรและมุ่งหน้าไปยังถนนดาวนิงสตรีทเพื่อเป็นประธานการประชุม COBR (คณะกรรมการตอบสนองภาวะฉุกเฉิน) หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
หน่วยบริการรถพยาบาลภาคตะวันตกเฉียงเหนือ (NWAS) ได้ส่งกำลังและทรัพยากรจำนวนมากเข้าพื้นที่ โดยย้ำว่า “ภารกิจสำคัญที่สุดคือการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด” ขณะเดียวกันมีรายงานว่า โรงพยาบาลในเครือ Northern Care Alliance (NCA) บางแห่ง เช่น Salford Royal, Fairfield General, Rochdale Infirmary และ Royal Oldham ต้อง "จำกัดการรับผู้ป่วยชั่วคราว" หลังมีการประกาศ “เหตุการณ์สำคัญ” ในพื้นที่
พื้นที่โดยรอบโบสถ์ถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาด้วยกำลังตำรวจจำนวนมาก รถดับเพลิง รถพยาบาล และเฮลิคอปเตอร์บินวนตรวจการณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธในชุดยุทธวิธีสีดำประจำการอย่างเข้มงวดทั้งนอกโบสถ์และบนถนน Whitehouse Avenue ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งสื่อท้องถิ่น Manchester Evening News รายงานว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะก่อเหตุเพียงลำพัง
จากภาคส่วนการเมืองและสังคม สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชดำรัสแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทรงขอบคุณหน่วยฉุกเฉินที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็ว ส่วน เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงส่งกำลังใจถึงผู้ประสบเหตุและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
ในกรุงลอนดอน ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรี ระบุบนแพลตฟอร์ม X ว่า ตำรวจนครบาลจะ "เพิ่มการลาดตระเวน" ในย่านชุมชนยิวและโบสถ์ยิวทั่วเมืองหลวงเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ด้าน Community Security Trust (CST) องค์กรด้านความปลอดภัยของชุมชนชาวยิว ได้ประณามเหตุรุนแรงนี้ว่าเป็น “การโจมตีที่น่าตกใจในวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด” และยืนยันความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตำรวจ
บุคคลสาธารณะหลายฝ่ายเรียกร้องให้สังคม "อย่ารีบด่วนสรุป" หรือคาดเดาแรงจูงใจ โดยปล่อยให้ตำรวจทำการสอบสวนอย่างรอบด้าน ซึ่ง เอมิลี่ สปูเรลล์ ประธานสมาคมตำรวจและอาชญากรรม ระบุว่ามีการส่งกำลังเสริมไปยังสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวยิวทั่วประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เช่นเดียวกับเสียงสนับสนุนจาก อัฟซาล ข่าน ส.ส.แรงงาน และ British Muslim Trust ที่ประณามความรุนแรงอัน “น่ารังเกียจและขี้ขลาด” พร้อมเตือนอย่าใช้เหตุนี้สร้างความแตกแยกในสังคม
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางพิธีกรรมวัน ยมคิปปูร์ ซึ่งธรรมศาลาทั่วสหราชอาณาจักรมักหนาแน่นเป็นพิเศษ เดฟ ริช จาก CST ชี้ว่ามีปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยร่วมระหว่างตำรวจและ CST ในทุกเทศกาลสำคัญของชาวยิว และย้ำว่าความร่วมมือจากประชาชนคือกุญแจสู่ความปลอดภัยของทุกคน
ตำรวจยังคงเดินหน้า "สอบสวนอย่างเร่งด่วน" ทั้งในมิติของผู้ก่อเหตุ แรงจูงใจ และความเป็นไปได้เรื่องอุปกรณ์ระเบิด ขณะที่ประชาชนได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงพื้นที่และปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
#แมนเชสเตอร์ #โบสถ์ยิว #ยมคิปปูร์ #อังกฤษ #วิสามัญ #ข่าวต่างประเทศ #ข่าววันนี้ #ความรุนแรง #ก่อการร้าย