เมื่อเวลา 14.14 น. วันที่ 1 ต.ค. 68 ที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาว่า ตอนนี้เรื่องการตรึงกําลังตามแนวชายแดนยังคงเต็มที่อยู่ ตนดําเนินงานควบคู่กับกระทรวงการต่างประเทศในเรื่องทางการทูต และการตั้งเงื่อนไขของประเทศไทย รวมถึงจุดยืนของประเทศไทย โดยเรื่องของการดูแลอธิปไตยไทย และการดูแลอาณาเขตประเทศไทย ตนได้หารือกับรมว.กลาโหม และหารือใกล้ชิดกับผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงเสนาธิการทหารบก ซึ่งตนได้ให้การยืนยันกับทุกท่านในด้านการทหาร ในแต่ละเหล่าทัพไปว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน รวมถึงตํารวจด้วย ในภารกิจตํารวจตระเวนชายแดน สิ่งที่ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาล ตนดําเนินการด้วยความรวดเร็วอย่างเต็มที่
" อย่างเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้เร่งอนุมัติงบกลาง เพื่อสนับสนุนภารกิจกองทัพ ในการปกป้องแนวชายแดนของประเทศไทยที่เรากําลังมีปัญหากับกัมพูชา ซึ่ง ผบ.ทบ.ได้ให้ความมั่นใจกับผมว่า เราไม่เสียเปรียบ เรารักษาอธิปไตยของเรา และเราได้ทําในสิ่งที่เราต้องทํา และจะทําในสิ่งที่ประชาชนจะไม่ผิดหวัง" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้เราดูในเรื่องประโยชน์ของประเทศไทยเท่านั้น เราเปลี่ยนท่าทีแล้ว เพราะสิ่งที่เขาปฏิบัติมา ก็ไม่มีอะไรที่เราจําเป็นจะต้องไปให้ความเกรงใจ ถ้าอะไรก็ตามที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และถ้าถึงขั้นที่ว่ามีไปก็ไม่เกิดคุณค่าอะไร ครม. ของตนก็พร้อมจะยกเลิกเอ็มโอยู ทั้งสี่เหล่าทัพจะดํารงสภาพนี้ในการเตรียมพร้อม ในเรื่องของจุดยืน จนกว่าความเป็นภัยของประเทศกัมพูชา จะหมดไปต่อประเทศไทย ถือเป็นความชัดเจนที่รัฐบาลยึดถือกรอบนี้ เพื่อสนับสนุนข้อสรุปของฝ่ายความมั่นคง
เมื่อถามว่า พฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกของกัมพูชาที่ไว้ใจไม่ได้ นายกฯ ตอบว่า " ไม่เอา เราไม่ว่าประเทศเพื่อนบ้าน เขาจะมีพฤติกรรมอะไรก็แล้วแต่ จะหลอกหรือไม่หลอก แต่ว่าเรามีความสามารถเพียงพอ รู้ว่าจุดยืนของเราอยู่ตรงไหน แล้วเวลาใดที่เราควรจะตอบสนองการกระทําของเขา ด้วยวิธีใด อันนี้ผมขอให้ความมั่นใจ"