จากกรณี เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 เขย่าภาคกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 69 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ขณะนี้จังหวัดเซบู ซึ่งได้รับความเสียหายหนักที่สุด ได้ประกาศภาวะภัยพิบัติในเช้าวันพุธ หลังผู้คนหลายพันคนต้องใช้ชีวิตกลางถนนตลอดทั้งคืน ท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ต.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ไฟฟ้าและน้ำประปาถูกตัดขาด ได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องไห้ และทุกคน “รู้สึกสะเทือนใจ” กับเหตุการณ์ครั้งนี้
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์ หลังฟิลิปปินส์เพิ่งเผชิญพายุไต้ฝุ่นหลายลูกติดต่อกัน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 20 ราย
เหยื่อส่วนใหญ่มาจากเมืองโบโก บนเกาะใหญ่ในหมู่เกาะวิซายัส ภาคกลางของประเทศ ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่สุด ภาพที่เผยแพร่จากพื้นที่แสดงให้เห็นถุงบรรจุศพเรียงรายอยู่บนถนน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลชั่วคราว เจ้าหน้าที่เตือนถึง “ความเสียหายอย่างรุนแรง” ที่เกิดขึ้นทั่วพื้นที่
หน่วยงานท้องถิ่นได้ประกาศขอความช่วยเหลือจากอาสาสมัครด้านการแพทย์ เพื่อร่วมดูแลและรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ถนนหลายสายแตกร้าวและบิดงอ สะพานพังทลาย ขัดขวางการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยของทีมกู้ภัย นอกจากนี้ สายไฟฟ้าในหลายพื้นที่ยังขาด ส่งผลให้การสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก
ผู้เสียชีวิต 7 รายในเมืองโบโก ถูกพบในหมู่บ้านที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับเหยื่อจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน เมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งครั้งนั้นพัดถล่มภาคกลางของฟิลิปปินส์และคร่าชีวิตผู้คนกว่า 6,000 ราย
เจ้าหน้าที่รับมือเหตุฉุกเฉิน ระบุว่า ระหว่างเกิดแผ่นดินไหวมีการแข่งขันบาสเกตบอลในเขตเทศบาลซานเรมิจิโอ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 20 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยดับเพลิงของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ขณะนี้ภารกิจหลักคือการค้นหาและกู้ภัย ซ่อมแซมระบบไฟฟ้า และกระจายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด
เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา เมืองโบโกยังเผชิญอาฟเตอร์ช็อกอีกครั้ง ขนาด 4.7 แมกนิจูด ซึ่งสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงเมืองเซบูและหมู่เกาะเลย์เตที่อยู่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
อาร์ชบิชอปแห่งเซบูได้ออกคำเตือนให้ผู้ศรัทธาหลีกเลี่ยงการเข้าโบสถ์ในช่วงนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบความมั่นคงของอาคารเก่าแก่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโบสถ์ประวัติศาสตร์ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ฟุตเทจจากพื้นที่เผยให้เห็นหอคอยของโบสถ์คาทอลิกเก่าพังทลายบางส่วนจากแรงสั่นสะเทือน
ฟิลิปปินส์ซึ่งประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายพันเกาะ ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อภัยธรรมชาติ ตั้งอยู่บน “วงแหวนแห่งไฟ” ที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังอยู่ในเส้นทางพายุไต้ฝุ่นที่พัดผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกทุกปี ล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “บัวลอย” และพายุไต้ฝุ่น “รากาซา” ถล่มประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งโหล ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงสูญหาย
#แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ #ฟิลิปปินส์ภัยพิบัติ #แผ่นดินไหวเซบู #ข่าวต่างประเทศ #ภัยธรรมชาติ #แผ่นดินไหว #PhilippinesEarthquake #CebuDisaster #Siamrath #ข่าวไวรัล