ในเมืองไทย "สายมู" หรือความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรม เป็นอีกมิติที่หยั่งรากลึกและปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ท่ามกลางบรรยากาศการเริ่มต้นทำงานอย่างเป็นทางการของรัฐบาลใหม่ หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยนัยยะทางความเชื่อเกิดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล นั่นคือการ "สร้างฉัตรครอบองค์นรสิงห์จำลอง" บนตึกไทยคู่ฟ้า

องค์นรสิงห์: ผู้พิทักษ์แห่งทำเนียบฯ
องค์นรสิงห์นี้ถูกจัดสร้างขึ้นในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2564 นรสิงห์คืออวตารปางที่ 4 ของ พระนารายณ์ ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ มีลักษณะพิเศษคือมี เศียรเป็นสิงห์ แต่ร่างกายเป็นมนุษย์ มีเรื่องเล่าว่าอวตารมาเพื่อ ปราบอสูร หรือความชั่วร้าย ดังนั้นในมิติของความเชื่อ นรสิงห์จึงถูกยกให้เป็น "ผู้พิทักษ์" หรือ Guardian ผู้มีหน้าที่ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและอัปมงคล
นอกจากตำนานแล้ว ในทางประวัติศาสตร์ นรสิงห์ ยังเป็น ตราประจำกรมมหรสพ ซึ่งเจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื่อง พึ่งบุญ ณ อยุธยา) ผู้เคยเป็นเจ้าของ บ้านนรสิงห์ (ชื่อเดิมของทำเนียบรัฐบาลในปัจจุบัน) เคยบัญชาการอยู่ ดังนั้นการประดิษฐานองค์นรสิงห์จึงเป็นการผสานรวมความเชื่อศักดิ์สิทธิ์เข้ากับรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของสถานที่
เป็นที่น่าสังเกตว่า องค์นรสิงห์จำลองนี้เคยถูกย้ายไปยังตึกแสงอาทิตย์ในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ก่อนหน้า แต่ในรัฐบาลของนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ก็ได้มีการ อัญเชิญกลับมาประดิษฐาน ณ ตำแหน่งเดิม ที่ระเบียงชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้าอีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและให้ความสำคัญกับพลังของ "ผู้พิทักษ์" นี้เป็นพิเศษ

ความหมายแห่ง "ฉัตรทอง 7 ชั้น"
การเคลื่อนไหวสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในวันแรกของการเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มตัวของนายกฯ อนุทิน คือการนำ ฉัตรสีทอง 7 ชั้น มาติดตั้งครอบองค์นรสิงห์จำลอง ซึ่งการกระทำนี้มีที่มาและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
การเสริม "สง่าราศี" และ "บารมี"
นายกฯ อนุทิน ชี้แจงว่า การสร้างฉัตรนี้เป็นไปตามคำแนะนำของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งผู้มีความรู้ในเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลที่ฟังดูมีเหตุผลและตรรกะว่า: เมื่อนำองค์นรสิงห์มาประดิษฐานแล้ว ก็ควรนำฉัตรมากางให้ท่าน เพื่อให้อยู่ร่มเย็น เป็นสุข และมีสง่าราศี
ในความเชื่อของไทย "ฉัตร" หรือ "ฉัตรทอง 7 ชั้น" นั้นไม่ใช่เพียงเครื่องบังแดด หากแต่เป็น เครื่องสูง ที่ใช้ในการ สถาปนาพระเกียรติยศ และเป็น สัญลักษณ์แห่งอำนาจและบารมี การนำฉัตรมากางถวายองค์นรสิงห์ ซึ่งเป็นเสมือน "ผู้พิทักษ์" แห่งอำนาจรัฐ จึงมีจุดประสงค์หลักเพื่อ:
เสริมความเป็นสิริมงคล: ให้การบริหารประเทศราบรื่น ปราศจากอุปสรรค
โชคลาภและความมั่งคั่ง: ดึงดูดความเจริญรุ่งเรือง
เสริมอำนาจและบารมี: เพื่อให้ผู้มีอำนาจในสถานที่นั้นมีพลังปกป้องและอำนาจเหนือกว่าอุปสรรคทั้งปวง
การติดตั้งฉัตรจึงเป็นการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อดั้งเดิม และยังเป็นการ เสริมขวัญและกำลังใจ ให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ระดับสูง ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีเองด้วย

สายมูในการเมือง: สัมพันธ์ระหว่างศรัทธาและการบริหาร
การติดตั้งฉัตรครอบองค์นรสิงห์ในวันแรกของการเข้าทำงานภายใต้ข้อตกลง (MOA) 120 วัน ของรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าความเชื่อหรือ "สายมู" ยังคงเป็นส่วนในการเสริมกำลังใจการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดินของไทย