ลามาร์ แจ็คสัน ควอร์เตอร์แบ็กตัวเก่งของ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังขาขวา ในเกมเปิดบ้านพ่าย แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ 20-37 สร้างความกังวลให้กับทีม หลังสตาร์วัย 28 ปีต้องออกจากสนามตั้งแต่กลางควอเตอร์สาม และยังไม่ชัดเจนว่าจะต้องพักนานแค่ไหน
จอห์น ฮาร์บอห์ หัวหน้าโค้ชของเรฟเว่นส์ ยอมรับว่า ยังไม่ทราบระดับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บของ แจ็คสัน แต่หวังว่านักเตะคนสำคัญจะกลับมาช่วยทีมได้โดยเร็ว หลังพาทีมเริ่มต้นฤดูกาลด้วยสถิติสุดย่ำแย่ 1-3 ซึ่งถือเป็นการออกสตาร์ทแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี
แจ็คสัน ได้รับบาดเจ็บหลังถูก จอร์จ คาร์ลาฟทิส ดีเฟนซีฟเอนด์ของ ชีฟส์ แซ็กกลางเกม ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกและไม่ได้กลับมาลงสนามอีก โดยเจ้าตัวทำผลงานขว้างสำเร็จ 14 จาก 20 ครั้ง ระยะ 147 หลา ทำ 1 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเตอร์เซปต์ และวิ่ง 6 ครั้ง ระยะ 48 หลา
“ไม่มีใครในทีมเจ็บถึงขั้นต้องพักทั้งฤดูกาล” ฮาร์บอห์ กล่าว หลังจากเห็นลูกทีมถึง 5 คนต้องออกจากสนามเพราะอาการบาดเจ็บ
เมื่อถูกถามว่า หากสกอร์สูสี แจ็คสันจะกลับมาลงสนามได้หรือไม่ โค้ชเรฟเว่นส์ตอบเพียงว่า “ตอนนี้ผมยังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนั้นจริงๆ”
ขณะที่ แจ็คสัน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ เคยเริ่มฤดูกาลด้วยสถิติ 1-3 เพียงสองครั้งในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ (ปี 2005 และ 2015) และทั้งสองปีนั้นทีมไม่ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟ หาก แจ็คสัน ไม่สามารถลงสนามในเกมเยือน ฮิวสตัน เท็กแซนส์ วันอาทิตย์นี้ โอกาสจะตกเป็นของ คูเปอร์ รัช
นอกจาก แจ็คสัน แล้ว ผู้เล่นตัวจริงอีก 4 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมล่าสุด ได้แก่ โรควอน สมิธ (กล้ามเนื้อต้นขา), มาร์ลอน ฮัมฟรีย์ (น่อง), เนท วิกกินส์ (ข้อศอก) และ รอนนี่ สแตนลี่ย์ (ข้อเท้า) ทำให้แนวรับของ เรฟเว่นส์ ตอนนี้เสียแต้มเฉลี่ยมากสุดในลีกที่ 33.3 คะแนนต่อเกม
แม้จะออกสตาร์ทอย่างน่าผิดหวัง ฮาร์บอห์ ยังแสดงความเชื่อมั่นในทีม โดยระบุว่าความพ่ายแพ้ทั้ง 3 นัดที่ผ่านมา มาจากการเจอกับ “ทีมระดับท็อปของลีก” อย่าง บัฟฟาโล่ บิลส์, ดีทรอยต์ ไลออนส์ และ ชีฟส์
“มันคือสิ่งที่เราต้องเจอ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราต้องชนะเกมต่อไปให้ได้ แล้วค่อยสะสมชัยชนะไปเรื่อยๆ นั่นคือสิ่งที่ผมมองภาพรวมของทีมตอนนี้” ฮาร์บอห์ กล่าวทิ้งท้าย
#ลามาร์แจ็คสัน #LamarJackson #บัลติมอร์เรฟเว่นส์ #BaltimoreRavens #KansasCityChiefs #ชีฟส์ #NFL #ข่าวNFL #อเมริกันฟุตบอล #ข่าวกีฬา #JohnHarbaugh #NFL2025 #RavensvsChiefs #ข่าวต่างประเทศ