เมื่อวัน 1 ตุลาคม 2568 “สยามรัฐออนไลน์”ได้รับรายงานว่า มีการตรวจสอบพบการบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยจุดที่ถูกระบุว่าได้รับความเสียหายอย่างหนักคือพื้นที่ใกล้เคียง โรงเรียนบ้านพุประดู่ (ในพื้นที่ตำบลหนองบัว) ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ไปแล้วกว่า 1,000 ไร่
โดยลักษณะการบุกรุกและการทำประโยชน์ ในเชิงธุรกิจและที่อยู่อาศัย โดยมีพฤติการณ์ที่ชัดเจนหลายประการ ได้แก่:
1. การแผ้วถางและสร้างโครงสร้างพื้นฐาน: มีการแผ้วถางป่า และมีการ สร้างถนน ตัดผ่านพื้นที่อย่างเป็นระบบ
2. การก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง: มีการ ปลูกสร้างโรงเรือน และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ เพื่อเป็นที่พักอาศัยหรือใช้ประโยชน์
3. การปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อการเกษตร/ปศุสัตว์: มีการ ขุดบ่อน้ำ ขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บน้ำ และการใช้พื้นที่เพื่อ เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสภาพป่าอย่างถาวร
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายป่าไม้และกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าอย่างชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ถูกประกาศขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสงวนพันธุ์สัตว์ป่าและถิ่นที่อยู่ อยู่ในเขต เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ซึ่งได้รับการประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามกฎหมายมาเป็นเวลานานแล้ว
โดยมีข้อมูลว่า ประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่อุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี มีผลบังคับใชตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2532 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 106 ตอนที่ 75 พื้นที่ครอบคลุม ตำบลหนองบัว (เป็นที่ตั้งของโรงเรียนพุประดู) ตำบลหนองหญ้า ตำบลบ้านเก่าและตำบลวังเย็น ในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี
ล่าสุด “สยามรัฐออนไลน์” ได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าประชุมที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่าจะติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพรรณพืช
#กาญจนบุรี #บุกรุกป่า #หนองบัว #โรงเรียนบ้านพุประดู่ #เขตห้ามล่าสัตว์ป่า #อุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ #แผ้วถางป่า #ขุดบ่อ #ปศุสัตว์