เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุสลด อาคารเรียนของโรงเรียนประจำอิสลาม “อัลโคซินี” เมืองซิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีนักเรียนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายซึ่งคาดว่าติดอยู่ใต้ซากอาคารอีกหลายสิบคน
รายงานระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนกำลังประกอบพิธีละหมาด โดยอาคารเรียนเดิมเป็นอาคาร 2 ชั้น แต่กำลังอยู่ระหว่างต่อเติมเพิ่มเป็น 4 ชั้น โดยมีการพบว่า ฐานรากของอาคารไม่แข็งแรงพอ ที่จะรองรับน้ำหนักโครงสร้างเพิ่มเติม ทำให้พังถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสุราบายา “นานัง ซิกิต” เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิตติดอยู่ภายใน เนื่องจากยังได้ยินเสียงร้องไห้และตะโกนขอความช่วยเหลือดังออกมาจากใต้ซากอาคาร อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะอาคารพังทลายแบบ “แพนเค้ก” ทำให้มีช่องว่างแคบและไม่มั่นคง
ขณะเดียวกัน เด็กชายวัย 13 ปี ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงหินและคอนกรีตถล่มลงมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่อาคารจะพังทั้งหลัง เขารีบวิ่งหนีออกมาทันเวลา แม้จะถูกเศษซากหลังคากระแทก แต่ยังสามารถปีนออกมาจากกองซากได้
ด้านผู้บริหารโรงเรียน “เคเอช อับดุส ซาลาม มูจิบ” ออกมากล่าวขอโทษต่อครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต โดยระบุว่า “นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า และหวังว่าพระองค์จะทรงประทานสิ่งที่ดีกว่าแก่ทุกคนที่สูญเสีย”
สำนักงานกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซียเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ช่วยเหลือพิเศษจากสำนักงานใหญ่ รวมถึงทีมกู้ภัยจากเมืองเซอมารังและยอกยาการ์ตา เข้าสมทบในพื้นที่ เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคารให้ได้โดยเร็วที่สุด
#ข่าวต่างประเทศ #อินโดนีเซีย #อาคารโรงเรียนถล่ม #เหตุสลดอินโดนีเซีย #โรงเรียนอิสลามถล่ม #ข่าวต่างประเทศวันนี้ #เด็กนักเรียนเสียชีวิต #ภัยพิบัติ #กู้ภัยอินโดนีเซีย #Sidoarjo