เศรษฐกิจ
80

ฟื้น “คนละครึ่ง” ทางรอดเศรษฐกิจรากหญ้า หรือแค่ยาแก้ปวดชั่วคราว?

แชร์ข่าว

หลังจากรัฐบาลมีแนวคิด “ฟื้นโครงการคนละครึ่ง” ขึ้นมาอีกครั้ง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อในประเทศซบเซา เสียงสะท้อนจากหลายฝ่ายเริ่มดังขึ้น ทั้งจากภาคธุรกิจ เศรษฐกร และประชาชนทั่วไป บ้างมองว่าเป็น “ยาช่วยชีวิตเศรษฐกิจฐานราก” แต่บางส่วนกลับมองว่าเป็น “มาตรการสิ้นเปลืองงบประมาณ” ที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

แม้ตัวเลข GDP ไทยยังคงขยายตัวในระดับต่ำกว่า 3% แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ “กำลังซื้อในประเทศ” โดยเฉพาะของผู้มีรายได้น้อยที่หดตัวลงต่อเนื่อง จากภาระหนี้สินครัวเรือนที่พุ่งทะลุ 91% ของ GDP ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนเริ่มชะลอการลงทุนเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก

ในสภาพเช่นนี้ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบผ่านโครงการ “คนละครึ่ง” จึงถูกมองว่าเป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะ “กระตุ้นการใช้จ่ายทันที” ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะในภาคค้าปลีก ร้านอาหาร และบริการขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในช่วงที่ผ่านมา

จากข้อมูลของกระทรวงการคลัง โครงการ “คนละครึ่ง” ทั้ง 5 เฟสที่ผ่านมา มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 400,000 ล้านบาท และช่วยพยุงยอดขายของผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 1.3 ล้านราย ขณะเดียวกันประชาชนกว่า 28 ล้านคน ได้รับประโยชน์โดยตรง

แต่ในอีกมุมหนึ่ง นักเศรษฐศาสตร์จำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่า “ผลกระตุ้นเศรษฐกิจของคนละครึ่ง” มักอยู่ในช่วงสั้น ๆ เพียง 1–2 เดือน หลังจากนั้นตัวเลขการใช้จ่ายมักกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และไม่ได้ช่วยเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน

ในเชิงสังคม “คนละครึ่ง” เป็นโครงการที่ได้รับความนิยมสูงสุดโครงการหนึ่งของรัฐบาลยุคหลัง ๆ เพราะจับต้องได้ ใช้งานง่าย และเห็นผลทันที แต่เมื่อกระแสข่าวเรื่องการฟื้นโครงการกลับมาอีกครั้ง เสียงจากชาวบ้านจำนวนมากแสดงความกังวลว่า “รัฐบาลจะมีงบเพียงพอหรือไม่” หลังมีการพูดถึงการกู้เงินใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

การฟื้น “คนละครึ่ง” ในวันนี้ จึงไม่ใช่คำถามว่า “ควรทำหรือไม่ควรทำ”แต่เป็นคำถามว่า “ทำอย่างไรให้คุ้มค่าและไม่เสียของ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลต้องการฟื้น “คนละครึ่ง” ให้มีประสิทธิภาพจริง ไม่ควรทำเพียงเพื่อ “เรียกคะแนนนิยม” แต่ต้องมาพร้อม ยุทธศาสตร์ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ที่ชัดเจน เพราะสุดท้ายแล้ว “คนละครึ่ง” อาจเป็นเพียง “เครื่องช่วยหายใจชั่วคราว” ของเศรษฐกิจไทย — แต่ไม่ใช่ “ยารักษาโรค” ที่จะแก้ปัญหาโครงสร้างได้อย่างยั่งยืน

 

ข่าวแนะนำ