วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุ ผนังกั้นน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยทราย ตำบลหนองมะนาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา แตกพังทลาย ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักลงสู่พื้นที่ตอนล่างและสมทบกับน้ำจาก อ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำเกินความจุสูงถึง 124% ของความจุอ่าง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่กว่า 7 ตำบลทั่วอำเภอคง
นางสาวนิชาพิชญ์ รักษาภักดี นายอำเภอคง พร้อมด้วย นายนพวิทย์ ควรขุนทด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา เขตอำเภอคง และเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา (ปภ.จ.), องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และผู้นำชุมชน ได้ระดมกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ต.หนองมะนาว และ ต.โนนเต็ง ที่ถูกน้ำไหลบ่าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ชาวบ้านจำนวนมากต้องรีบขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูงอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายไพศาล เกียรติชัยพัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลเมืองคง ได้นำเครื่องจักรกลหนักและรถแบ็กโฮลงพื้นที่เร่งเปิดทางระบายน้ำ พร้อมเก็บกวาดวัชพืชและขยะมูลฝอยที่ไหลมากับกระแสน้ำ บริเวณสะพานขาวบ้านห้วยน้อย ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำหลักของอ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อ โดยพบว่ามีมวลน้ำล้นออกจากสปิลเวย์ (ช่องระบายน้ำล้น) ต่อเนื่อง ทำให้น้ำเอ่อท่วมสองฝั่งคลองน้ำธรรมชาติ
นายนพวิทย์ ควรขุนทด ส.อบจ.นครราชสีมา เขตอำเภอคง เปิดเผยว่า “ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักแทบทุกวัน ทำให้มีน้ำสะสมและวัชพืชอุดตันบริเวณสปิลเวย์ของอ่างห้วยทราย จนเกิดการกัดเซาะผนังกั้นน้ำด้านข้างจนแตก น้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าสู่อ่างห้วยตะคร้อ ซึ่งมีระดับน้ำเกินความจุอยู่แล้ว ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่หลายตำบลในเขตอำเภอคง”
จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วใน 7 ตำบล ได้แก่ ต.หนองบัว, ต.หนองมะนาว, ต.โนนเต็ง, ต.เมืองคง, ต.คูขาด, ต.ขามสมบูรณ์ และ ต.ดอนใหญ่ รวมกว่า 300 ครัวเรือนประสบอุทกภัย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังน้ำหลากอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิทธิพลของ พายุ “บัวลอย” ยังส่งผลให้ฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำ
สถานการณ์ล่าสุด (เวลา 12.30 น.) ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากมีมวลน้ำไหลเข้าทั้งอ่างห้วยทรายและอ่างห้วยตะคร้ออย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
#ภูมิภาค-52