วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่หมู่บ้านโจก ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะบริเวณคุ้มหนองกก ซึ่งเป็นจุดที่เคยเกิดเหตุ จรวด BM-21 ของทหารกัมพูชา ยิงตกใส่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ “น้องน้ำโขง” เด็กหญิงวัย 8 ขวบ และนายบัณฑิต อุ่นจิตร อายุ 34 ปี
ล่าสุดสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียด ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนตัดสินใจ อพยพหนีออกนอกหมู่บ้านแล้วกว่า 10 หลังคาเรือน เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่หลายครอบครัวยังคงอยู่ในพื้นที่แต่ได้เตรียมกระเป๋า เสื้อผ้า และของจำเป็นไว้ในรถ พร้อมอพยพได้ทันทีหากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
แม่เหยื่อจรวด BM-21 เผยยังทำใจไม่ได้ – ชาวบ้านเตรียมหลุมหลบภัยรอเหตุฉุกเฉิน
นางวรรณวิษา อุ่นจิตร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโจก ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง ซึ่งเป็นแม่ของนายบัณฑิต หนุ่มวัย 34 ปีที่เสียชีวิตจากเหตุจรวด BM-21 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านส่วนหนึ่งอพยพออกจากพื้นที่แล้ว บางคนยังอยู่แต่ก็เตรียมตัวพร้อมเสมอ
“บางคนก็ออกไปแล้ว บางคนก็ยังอยู่ แต่ทุกบ้านเตรียมกระเป๋า เสื้อผ้า ของใช้จำเป็นไว้ในรถ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้หนีทัน ส่วนชาวบ้านที่อยู่ก็ช่วยกันขุดและปรับปรุงหลุมหลบภัยไว้พร้อม หากมีการยิงเกิดขึ้นอีกจะได้หลบได้ทันที” นางวรรณวิษากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเหตุจรวดตกที่คุ้มหนองกกครั้งก่อน ชาวบ้านหลายครอบครัวไม่กล้าอยู่ในพื้นที่เพราะหวาดกลัวว่าจะถูกระเบิดซ้ำ ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน
“ตอนนี้อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเจรจาแก้ไขปัญหาให้จบเร็ว ๆ ชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวา ไม่กล้าออกไปทำมาหากิน ส่วนตัวดิฉันยังทำใจไม่ได้เลยกับการสูญเสียลูกชายในเหตุการณ์ครั้งนั้น” แม่ของผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตา
สถานการณ์ยังไม่นิ่ง – ชาวบ้านหวั่นระเบิดซ้ำ
รายงานจากพื้นที่ระบุว่า ขณะนี้แม้บรรยากาศในหมู่บ้านยังดูสงบ แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงอยู่ในความวิตกกังวล บางบ้านนำผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียงอพยพออกไปอยู่กับญาติในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่บ้านใกล้แนวชายแดนยังคงอยู่ในสภาพพร้อมอพยพได้ทุกเมื่อ
ชาวบ้านต่างวอนให้ภาครัฐเร่งแก้ไขสถานการณ์ชายแดนอย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังจากต้องอยู่ในความหวาดกลัวมาหลายเดือน
#ภูมิภาค-63