ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ฤดูฝนปี 2568 มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจเผชิญภาวะน้ำท่วมหนักกว่าที่ผ่านมา หลังพบว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–สิงหาคม) ปริมาณฝนตกสะสมทั่วประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปีถึง 10.3%
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ระดับน้ำล่าสุด (ณ วันที่ 16 กันยายน) ของเขื่อนในภาคเหนือและภาคตะวันตกอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังสูงเกินกว่า 80% ซึ่งหากปริมาณน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ในอีก 25 ปีข้างหน้า ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 12.5 เซนติเมตร ภายในปี 2593 ซึ่งปัญหาน้ำท่วมอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยมากถึง 0.3% ของ GDP และกระทบต่อประชากรราวครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ หรือประมาณ 5 ล้านคน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังเสนอแนวทางการรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวไว้ 3 แนวทางหลัก ได้แก่
การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างสีเขียว เช่น สวนสาธารณะขนาดใหญ่แบบ “สวนเบญฯ” ที่สามารถดูดซับน้ำได้ถึง 128,000 ลูกบาศก์เมตร
การใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น การออกตราสารหนี้ภัยพิบัติเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านน้ำท่วม
การพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า เช่น ระบบคำนวณและแจ้งเตือนภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดความเสียหายจากน้ำท่วมได้ถึง 30%
ศูนย์วิจัยฯ ย้ำว่า ทุกภาคส่วนควรเร่งบูรณาการเพื่อวางมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ก่อนที่กรุงเทพฯ จะเข้าสู่ภาวะวิกฤตในอนาคตอันใกล้
#น้ำท่วมกรุงเทพ #ฝน2568 #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #กทมน้ำท่วม #ภัยธรรมชาติ #ฝนตกหนัก #เตือนภัยน้ำท่วม #โลกร้อน #สิ่งแวดล้อม #ข่าววันนี้ #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวสิ่งแวดล้อม #KasikornResearch #BangkokFlood #ข่าวไวรัล