สถาพร ศรีสัจจัง ช่วงนี้ชาวสภากาแฟจับตามองนายกฯลุงตู่กันแบบตาแทบไม่กระพริบ ด้วยสังเกตเห็นว่าท่านพูดและ “เล่นหัว” กับบรรดาผู้สื่อข่าวและกับใครๆน้อยลงมาก หน้าตาก็ดูเคร่งเครียดขึ้น ขณะที่เมื่อจับตาดูการเคลื่อนไหวของบรรดา “พลพรรค” ฝ่ายที่ “ถูกยึดอำนาจ” ดูจะแจ่มใสคึกคักและเริ่มเล่นเกมรุกกันมากขึ้น             ฝ่ายชาววัดธรรมกายอันยิ่งใหญ่ ที่ใครก็รู้ว่า “ปึ้ก” กับ “นายกฯผู้นิราศ” แบบเป็นเนื้อเดียวกัน ก็ดูจะไม่ตื่นเต้นกับ “กระแส” ของดีเอสไอ.และ “ฝ่ายตำรวจ” ที่ทำท่า “ฮึ่มๆ” เหมือนเที่ยวนี้จะเอาจริง ทั้งยังแสดงท่า “ลุกขึ้นสู้” อย่างเต็มรูปกับตัวแทนอำนาจรัฐเพื่อ “หลวงพ่อของพวกเรา” (ก็อดีตเจ้าอาวาสมหาเศรษฐีแห่งวัดธรรมกายคนเดิมนั่นแหละ)ทั้งโดยการระดมคน การให้สัมภาษณ์ และการแสดงท่าทีขัดคำสั่งของคสตช.อย่างโจ๋งครึ่ม             สำหรับเรื่องนี้ หลายคนในสภากาแฟวิเคราะห์วิจารณ์กันไปในทำนองว่า หรือเที่ยวนี่นายกฯลุงตู่ของเรา “ถูกของ” หรือ เจอตอ?อีกคนบอกไม่ใช่น่าจะถูกฟ้าผ่ามากกว่า! ฯลฯ ก็ว่าก็สันนิษฐานกันไปต่างๆนานาตามประสา “คนวงนอก” ผู้เป็นห่วงอนาคตของแผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทองของเรา             มุมมองหนึ่งที่แรงจัด เป็นของคนหนุ่มสุดในวง เขากล่าวทำนองขวานผ่าซากขึ้นว่า กรณีนายไชยบูลย์หรือธัมมชโยแห่งวัดพระธรรมกาย น่าจะเป็นเรื่องที่ดีเอสไอ.ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “รัฐมนตรีน้ำดี” พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่เพิ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีมาหมาดๆ กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “พี่ใหญ่” แห่งพยัคฆ์บูรพา พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ น่าจะต้องได้รับการพิจารณาลงโทษจากท่านนายกฯลุงตู่เสียบ้าง              เมื่อมีบางใครตั้งคำถามขึ้นทำนอง “แล้วเพราะอะไรละ?”               เขาก็หันมาสวนตอบแบบตาขวางทันควันว่า ก็ทำให้นายกฯลุงตู่ของเรา ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งโดยหลักการแล้วต้องร่วมรับความผิดหรือรับชอบต่อเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ต้องเสียหายและถูกโจมตีว่าเป็นพวก “สองมาตรฐาน” นั่นไง               เมื่อถูกตามต่อไปว่า “สองมาตรฐานยังไงกันเล่า”?               เที่ยวนี้เขาอธิบายเป็นฉากๆอย่างมันปาก สรุปเนื้อหาได้ประมาณว่า ก็ทีกรณีคดีของ “บอล แฟนดารา” หรือนายกฤษณะ  อมิตรสูญ ที่สื่อทุกสายโดยเฉพาะ ที.วี.เน้นนักเน้นหนา( ทุกครั้งที่เป็นข่าว)ว่าเป็นแฟนสุดเลิฟของนางเอกสาวแสนสวย “อุ้ม ลักขณา” ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับกลุ่มพวกรุมทำร้ายร่างกายผู้อื่น(บังเอิญ “ผู้อื่น” ในที่นี้เป็นลูกนายพลประเภทคุมกำลัง)ที่เมืองเชียงใหม่นั่นไง เป็นคดีเล็กกว่ามากและเกิดหลังแท้ๆ ยังจัดการได้อย่างเร็วและเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รุกจนนายบอลและทีมงานรวมไปถึงคุณแม่แทบกระอัก ถูกกดดันจนแทบจะเข้ามอบตัวไม่ทัน ฯลฯ                ขณะที่กรณี “ธมฺมชโย” แห่งพระธรรมกาย กลับปล่อยปละละเลยมาตั้งนานตั้งยาว ทั้งที่เป็นคดี “ความมั่นคง” แท้ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องการฉ้อฉลฟอกเงิน มีหมายเรียกก็ถูกปรามาส มีหมายจับก็คว้าน้ำเหลว ถูกหยามทั้งที่รู้แท้ๆว่าอยู่ที่ไหน ปล่อยยาวมาจนอัยการสั่งฟ้องคดีแล้ว ก็ยังจับตัวไม่ได้ ไม่รู้เพราะกลัวบารมีอะไร จึงนิ่งงันกันไปทั้งกองทั้งกรม ที่พอมีเสียงออกมาบ้างก็แค่ฮึ่มๆ ว่าจะ..ว่าจะ...                จนสื่อและชาวบ้านเขาเตือนเขาแหย่ว่าจะไม่ได้เรื่อง จนนายกฯลุงตู่ต้องเป็นตัวแทนออกมากดดันชาวบ้านกดดันสื่อว่าอย่ากดดันเจ้าหน้าที่ให้ไปกดดันผู้ต้องหาแทน ก็ไอ้เรื่องนั้นมันไม่ใช่เรื่องของขาวบ้านนี่ครับ เขาจะไปกดดันได้ยังไง แต่ดีเอสไอ.และตำรวจเป็นเจ้าพนักงานต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ถ้าบกพร่องถ้าหน่อมแน้มก็ต้องว่ากันบ้างจะไม่ได้หรือไรครับ ก็ปล่อยมันมาตั้งนานแล้ว ก็ให้เขาช่วยนินทาบ้างสิ!                 ที่นายทักษิณ ชินวัตรและชาวเสื้อแดงย้ำนักย้ำหนาว่าเมืองไทยมีการใช้กฎหมายแบบ 2 มาตรฐานก็คงเป็นแบบนี้นี่เอง! นาย “บอล แฟนดารา” ก็คงคิดทำนองนี้ คือ ทีกรูเร่งกันแบบเอาเป็นเอาตาย แต่ที “ผู้มีอิทธิพล” แล้วแหย หรืออะไรทำนองนั้นละมั้ง!                  ชาวสภากาแฟจึงเดือดเนื้อร้อนใจในเรื่องนี้อยู่มาก เพราะที่จะเสียจริงๆก็คือนายกฯลุงตู่ของพวกเขานั่นแหละ เพราะท่านเป็นทั้งหัวหน้าคสช.และหัวหน้ารัฐบาล ทำนองเรื่องแค่นี้ก็ยังจัดการไม่ได้ แล้วจะไปแก้ปัญหาใหญ่ๆของขาติบ้านเมืองที่อาสาว่าจะเข้ามาช่วยแก้ ถึงขนาดลงทุนทำรัฐประหารให้เจ้าของอำนาจเดิมเขาแค้นเขาเคืองแบบจะไม่เผาผีกันอยู่เห็นๆได้อย่างไร?                    ชาวสภากาแฟบอกว่า ถ้านายกลุงตู่เข้มแข็งพอและผ่านเรื่องนี้ไปได้ นอกจากจะไม่ถูกกล่าวย้ำแล้วย้ำอีกว่าเป็นพวก “สองมาตรฐาน”แล้ว ยังจะได้บุญอีกโสดหนึ่ง ค่าที่น่าจะช่วยทำให้การพระพุทธศาสนาของชาติเอี่ยมขึ้น ทำให้ฝูงมารฝูงเหลือบที่เกาะกินบิดเบือนเนื้อในแก่นธรรมหลุดร่วงไปได้บ้าง                     ชาวบ้านบอกว่าตายไปแม้จะไม่ได้รับยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ แต่อย่างน้อยบุญครั้งนี้ก็จะทำให้ได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน!                     ท่านสุภาพบุรุษโล่ห์เงิน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ไชยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติช่วยทีเหอะ ช่วยปลดล็อก คำเย้ย “วีรบรุษ 2 มาตรฐาน” ให้กับท่านนายกฯลุงตู่ผู้น่ารักของเราทีเหอะ ดูท่าจะหวังจากดีเอสไอ.ไม่ได้เสียแล้ว เพราะท่านนายพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา คนตงฉินก็ถูกย้ายให้ไปสนองงานสำคัญอื่นเสียแล้ว!!!!!