นับถอยหลัง เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมง ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ  นัดสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎร จะเปิดฉากขึ้นมาแล้ว ในวันอังคารที่ 19 ก.ค.65 ดึงเกมยาวไปจนถึงวันที่ 22 ก.ค. ปิดท้ายกันที่วันโหวตลงมติ วันเสาร์ที่ 23 ก.ค.นี้ 65 หมายความว่า โฟกัสการเมือง จะเทน้ำหนักไปที่ เวทีสภาฯ เพราะจะเป็นศูนย์รวมทุกความเคลื่อนไหว ทั้งซีกฝ่ายค้านและรัฐบาล 

 การประชุมครม.วันนี้ (18 ก.ค.65) ที่มี บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับอีก 10รัฐมนตรี ที่มีชื่อถูก ฝ่ายค้าน ขึ้นบัญชีซักฟอก  อาจเอาใจเทไปที่การเตรียมตัวรับมือกับศึกในสภาฯ 
 ยิ่งเมื่อฝ่ายค้าน เปิดหน้าขู่กันชนิดรายวันทั้งแถลงข่าว ไปจนถึงการปล่อยโปสเตอร์ ปล่อยคลิป เขย่าขวัญ กันมาตั้งแต่วันหยุดที่ผ่านมา ยิ่งกลายเป็นแรงกดดัน ทำให้ 11รัฐมนตรี อาจต้องเหลียวหน้า พะวงหลังไปตามๆกัน 


 เพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในการประชุมครม.ครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เองได้กำชับรัฐมนตรีที่มีถูกอภิปรายฯ ให้เตรียมตัวกันให้พร้อม  และที่สำคัญไปกว่านั้น แนะนำให้รัฐมนตรีควร เก็งข้อสอบ กันให้ดี เพราะฝ่ายค้าน อาจหยิบเอาประเด็นที่ไม่เคย เผยไต๋ มาก่อน มาใช้ซักฟอกกันกลางสภาฯ 

 แม้ความได้เปรียบที่ ฝ่ายรัฐบาลมีอยู่ คือ เสียงข้างมาก ซึ่งเป็นต้นทุนเดิม บวกกับ ส.ส.งูเห่า จากพรรคฝ่ายค้าน ที่จะหามาเติม มายกมือโหวตลงคะแนน  ไว้วางใจ ในวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.นี้ก็ตามที แต่นั่นต้องหมายความว่า รัฐบาลจะต้องผ่าน ฉลุย ทั้งเสียงโหวต และไม่มี ชนักติดหลัง  ตามมา   อย่าลืมว่า ห้วงเวลาหลังจากเสร็จศึกอภิปรายฯ คือการเดินหน้าเข้าสู่โหมดของการเตรียมตัวเลือกตั้ง อย่างชัดเจนที่สุด ! 

 ขณะเดียวกัน ทางด้าน ฝ่ายค้าน ที่แม้วันนี้จะได้ 18เสียง ของ พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมจะเข้ามาเพิ่มเติมเสียงโหวต ไม่ไว้วางใจ ก็ตาม แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า 18เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย จะมีน้ำหนักหรือเป็น ตัวแปร หลักๆ ถึงขึ้นที่จะทำให้ 6พรรคฝ่ายค้าน กระหยิ่มยิ้มย่องได้ ว่าพรรคฝ่ายค้านมีจำนวนเสียงเพิ่มขึ้น 

 เพราะ 6พรรคฝ่ายค้าน ประเมินการต่อสู้ในสภาฯ นัดสุดท้าย รอบนี้แล้วว่า การมาของพรรคเศรษฐกิจไทย นั้นมีเบื้องลึก เบื้องหลังจากความขัดแย้ง ภายในกลุ่มอำนาจฟากรัฐบาลเท่านั้น หมายความว่า พรรคฝ่ายค้าน จะไม่เข้าไปร่วมเล่นเกมในความขัดแย้ง นอกจากเดินหน้า เขย่าเก้าอี้ ทั้ง นายกฯ และ 10 รัฐมนตรี เพื่อเล็งผลตัดกำลังก่อนถึงวันเปิดสนามเลือกตั้งเท่านั้น !