ผลสำรวจ “นิด้าโพล” เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์กลับมาครองใจคนใต้เป็นอันดับ 1 และ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” คือบุคคลที่คนใต้สนับสนุนให้เป็นนายกฯ มากที่สุด ในกลุ่มรายชื่อที่ติดอันดับ (อันดับ 1 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 อภิสิทธิ์) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองที่น่าจับตามอง แต่ภายใต้ตัวเลขที่ดูดีนี้ มีความเป็นจริงทางการเมืองที่ซับซ้อนซ่อนอยู่
1. จากจุดตกต่ำสู่การเปลี่ยนแปลง
ก่อนจะประเมินอนาคต ต้องมองย้อนกลับไปที่บาดแผลของพรรค ตัวเลข สส. สะท้อนความล้มเหลวชัดเจน จากปี 2562 ที่ได้ 52 ที่นั่ง มาสู่จุดต่ำสุดในปี 2566 ที่เหลือเพียง 25 ที่นั่ง แต่สิ่งที่ทำลายพรรคมากกว่าจำนวน สส. คือวิกฤตศรัทธาในยุคหัวหน้าพรรคที่ชื่อ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” การนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลข้ามขั้วกับพรรคเพื่อไทย ถูกฐานเสียงเดิมมองว่าเป็นการทำลายจุดยืนทางการเมืองตลอดหลายทศวรรษของพรรค
2. นัยยะทางการเมืองของ “อภิสิทธิ์ รีเทิร์น”
เมื่อสมการการเมืองเปลี่ยน พรรคภูมิใจไทยขึ้นเป็นแกนนำรัฐบาล ส่งผลให้ประชาธิปัตย์ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน การลาออกของเฉลิมชัยเพื่อเปิดทางให้อภิสิทธิ์กลับมา จึงเป็นหมากเกมเดียวที่จะกู้ศรัทธาได้ ซึ่งการกลับมาของอภิสิทธิ์ตอบโจทย์ฐานเสียงใน 2 มิติ
(1) การล้างภาพลักษณ์: อภิสิทธิ์คือสัญลักษณ์ของประชาธิปัตย์ดั้งเดิมที่มีจุดยืนชัดเจนว่า “ไม่เอาระบอบทักษิณ” การกลับมาของเขาช่วยลบล้างภาพจำช่วงที่พรรคไปร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
(2) ตัวเลือกของฝ่ายอนุรักษ์นิยม: ในภาวะที่พรรคประชาชน (ก้าวไกลเดิม) ครองกระแสคนรุ่นใหม่ และพรรคภูมิใจไทยครองอำนาจรัฐแบบบ้านใหญ่ อภิสิทธิ์กลายเป็นตัวเลือกที่ลงตัวที่สุดสำหรับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและชนชั้นกลางที่ต้องการผู้นำที่มีภาพลักษณ์ดูดีมีหลักการ
3. ความท้าทาย: กระแส VS ความจริงในสนามเลือกตั้ง
แม้โพลจะชี้นำว่ากระแสประชาธิปัตย์กลับมา แต่การจะฟื้นคืนชีพให้ยิ่งใหญ่เหมือนอดีต ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก
(1) โครงสร้างเครือข่ายที่พังทลาย: คะแนนโพลคือ “กระแส” แต่การชนะเลือกตั้งเขตต้องใช้ “การจัดตั้ง” ในช่วงที่พรรคตกต่ำ สส. และหัวคะแนนเก่าแก่จำนวนมากได้ย้ายฐานไปอยู่กับภูมิใจไทย การที่อภิสิทธิ์จะดึงคะแนนเขตกลับมาโดยไม่มีทรัพยากรและเครือข่ายสนับสนุนเหมือนเก่า เป็นโจทย์ที่ยากกว่าการสร้างกระแส
(2) การแย่งชิงธงนำอนุรักษ์นิยม: ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทยสวมบทบาทแกนนำอนุรักษ์นิยมผ่านกลไกรัฐไปแล้ว การที่ประชาธิปัตย์จะทวงตำแหน่งนี้คืน ทำได้เพียงการเน้นจุดยืนทางจริยธรรม ซึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะดึงกลุ่มทุนและผู้มีบารมีกลับมาในระยะอันสั้น
การกลับมาของอภิสิทธิ์ ทำให้ประชาธิปัตย์มีภาพลักษณ์พรรคอนุรักษ์นิยมที่ชัดเจน ตอบโจทย์ฐานเสียงกลุ่มดั้งเดิม ท่ามกลางความอ่อนล้าอ่อนแรงของหลายๆ พรรคการเมือง แม้จะไม่อยู่กลุ่มตัวเต็ง แต่ด้วยจุดขายที่แข็งแรงกว่าในการเลือกตั้งปี 2566 ทำให้การเลือกตั้งครั้งใหม่ในปี 2569 ประชาธิปัตย์ก็เป็นอีกหนึ่งพรรค… ที่ไม่อาจประมาทได้
บทความโดย ศราวุธ เอี่ยมเซี่ยม
#ประชาธิปัตย์ #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #นิด้าโพล #การเมืองไทย #เลือกตั้ง2569 #พรรคการเมือง #ข่าวการเมือง #วิเคราะห์การเมือง #การเมืองใต้ #ประชาธิปัตย์รีเทิร์น