วันที่ 21 พ.ค.2567 เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สว. 40 คน เข้าชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติและมาตรฐานทางจริยธรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า สว.ได้ใช้กลไกของศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความเรื่องคุณสมบติ ซึ่งเป็นช่องที่เปิดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นความพยายามอีกครั้งของสว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งที่จะเข้ามามีบทบาทในการกำหนดว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลหรือใครจะปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกฯ และหากย้อนไป 1 ปี จะเห็นว่าสว.ที่มาจากการแต่งตั้งใช้อำนาจที่มีในการเลือกนายกฯมาแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล และตอนนี้อยู่ในช่วงรักษาการก็ยังพยายามใช้อำนาจที่มีในรัฐธรรมนูญปี 60 เข้ามาแทรกแซงว่าใครจะปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐบาล หรือนายกฯต่อไป

“ผมคิดว่าประชาชนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคน และตามครรลองประชาธิปไตยรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ นายกฯจะอยู่ได้หรือไม่ รัฐมนตรีที่ตั้งมาเหมาะสมหรือไม่ ผมคิดว่าควรจะถูกตัดสินโดยประชาชนผ่านการเลือกตั้ง และถ้ามีกรณีไหนที่นายกฯตั้งรัฐมนตรีที่อาจจะไม่มีความเหมาะสม คิดว่าสิ่งที่ปกติที่สุดคือรัฐบาลต้องรับผิดชอบทางการเมือง และรับเสียงสะท้อนจากประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง ” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถามถึงกรณีที่ทางรัฐบาลยืนยันว่าการแต่งตั้งนายพิชิตถูกต้อง การรับผิดชอบอาจจะไม่จำเป็นต้องมี นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการตัดสินใจทางการเมืองของรัฐบาลว่าจะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร และในเชิงกฎหมายตนคิดว่าเป็นข้อถกเถียงกันคนละข้อ ทั้งคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามที่มีการส่งให้กฤษฎีกาตีความ กับคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามที่ทางสว.ยื่นเข้าไป ตนตั้งข้อสังเกตว่าในเชิงการเมืองประชาชนมีสิทธิ์ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของรัฐมนตรีแต่ละคน หากประชาชนมองว่านายกฯตั้งรัฐมนตรีไม่เหมาะสม และประชาชนจะลงโทษรัฐบาลผ่านคูหาเลือกตั้ง

“ส่วนการทำงานของฝ่ายค้านเราจะใช้กลไกสภาฯในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ทั้งการดำเนินนโยบาย หรือความโปร่งใส่ในการดำเนินงานของรัฐมนตรีแต่ละคน และเมื่อสภาฯเปิดก็จะเห็นกลไกที่พรรคก้าวไกลใช้เต็มที่ในการตรวจสอบรัฐบาล ฉะนั้นพรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นแน่นอน” โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าว

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่าอาจจะเปลี่ยนตัวนายกฯหรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาล มองว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์ไปไกล โดยในเชิงกฎหมายต้องดูขั้นตอนก่อน และตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับเรื่อง ส่วนหากรับเรื่องจริงๆ ตนคิดว่าในมุมของพรรคก้าวไกลเราคงทำงานต่อในฐานะฝ่ายค้าน  และท้ายที่สุดสิ่งที่เราตรวจสอบคือวาระของรัฐบาลภาพรวม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายกฯคนใดคนหนึ่ง หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ฉะนั้นในมุมการทำงานของพรรคก้าวไกลเราเดินหน้าต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามที่สว.ยื่นเข้าไป