เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ พล.ต.ท อภิรัติ นิยมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหารือความร่วมมือในการปฏิบัติงานระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
โดยที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง ดังนี้
1.ความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส) กับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
เนื่องมาจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ภายใต้สังกัด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มีผลงานการจับกุม เกี่ยวกับขบวนการ ที่ทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติและ สภาพแวดล้อม อันเป็นเหตุให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีล่าสุด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น และตรวจยึดกากแคดเมียม ซึ่งเป็นสารอันตราย ได้จากโรงงาน ในพื้นที่หลายจังหวัดนั้น ทำให้เล็งเห็นว่าการประสานข้อมูลกันจะยิ่งทำให้การงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านป้องกันปราบปราม และข้อมูลด้านต่างๆ ให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ประชุมเสนอให้มีการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และจะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งแวดล้อมขึ้นเพื่อประสานการปฏิบัติต่อไป
2.การถ่ายโอนภารกิจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
สืบเนื่องจาก กตร.มีมติให้ถ่ายโอนภารกิจทั้งหมดของ บก.ปทส. ให้ทส. รับไปดำเนินการ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯยืนยันว่า ยังไม่มีความพร้อมรับภารกิจงานด้าน "การสอบสวน" มาดำเนินการ ขณะที่ทางบก.ปทส. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายและมีศักยภาพด้านการสืบสวนและสอบสวนมากกว่า
ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะทำหนังสือยืนยันความเห็นดังกล่าวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบต่อไป
