เครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่ประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ ตอบโจทย์สังคมสูงวัย ตัวช่วยคัดกรองผู้ป่วยกระดูกพรุนในท้องถิ่น ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสาธารณสุขของประเทศ

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดแถลงข่าว “NRCT Talk : รางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2567 ครั้งที่ 5” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนางานผลงานประดิษฐ์คิดค้น และเชิดชูเกียรตินักวิจัยไทย ในสาขาวิชาการต่างๆ ของประเทศ ครั้งนี้ได้เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพปัญญาประดิษฐ์ โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงนการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานการแถลงข่าวฯ ณ ศูนย์การวิจัย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. จัดกิจกรรม “NRCT Talk รางวัลการวิจัยแห่งชาติ รางวัลสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2567 ครั้งที่ 5” เพื่อเชิดชูผลงานที่มีความโดดเด่น และสร้างคุณูปการให้กับวงวิชาการและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการสร้างแรงจูงใจของนักประดิษฐ์ และนักวิจัย ในอันที่จะพัฒนานวัตกรรมทางความคิดและภูมิปัญญาที่เป็นประโยชน์สร้างความก้าวหน้าในศาสตร์แขนงต่าง ๆ โดยในปีนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเปิดงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2567 และพระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ เข้าเฝ้ารับพระราชทานเกียรติบัตรรางวัลการวิจัยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง ผลงาน “เครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์” ของ รศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ และคณะ แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็น 1 ในผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้น สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2567

รศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 25 เป็นโรคกระดูกพรุนโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว และการคัดกรองโรคกระดูกพรุน สามารถทำได้โดยเครื่องวัดมวลกระดูกใช้รังสีเอกซ์ มีขนาดใหญ่ ราคาแพง

มีเฉพาะในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่มีฐานะยากจนหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้ จากปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการคิดค้นเครื่องคัดกรองโรคกระดูกพรุน ด้วยการวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกแบบพกพาด้วยการเรียนรู้ผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็น “เครื่องตรวจคัดกรองเครื่องแรกของโลก” มีระดับความน่าเชื่อถือที่ยอมรับได้สำหรับการคัดกรองเบื้องต้น โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องเอกซเรย์ขนาดใหญ่ แต่มีราคาถูก น้ำหนักเบา เคลื่อนที่สะดวก ง่ายต่อการใช้งาน ทุกคนสามารถใช้ได้ไม่อันตราย ระบบแสงพลังงานต่ำที่ปลอดภัย ไม่ต้องมีนักรังสีเทคนิค และใช้เวลาเพียง 1 นาที โดยผลตรวจออกมาแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ แถบสีเขียว หมายถึง มวลกระดูกอยู่ในภาวะปกติ แถบสีเหลือง หมายถึง กระดูกบาง มีความเสี่ยงต้องระวัง และ แถบสีแดง หมายถึง มวลกระดูกมีความหนาแน่นในระดับที่เสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน

“การตรวจวัดมวลกระดูก ทำให้ทราบว่าแต่ละคนเสี่ยงต่อการมีภาวะกระดูกโปร่งบางหรือไม่ เพื่อการป้องกันและรักษา แต่ปัญหาคือ เครื่องวัดมวลกระดูกเป็นเครื่องที่ใช้รังสีเอกซ์ มีขนาดใหญ่ ราคาแพง จะมีอยู่เฉพาะในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่มีฐานะยากจน หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล จะไม่สามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้ ซึ่งทีมวิจัยเรามีเป้าหมายหลักที่ต้องการให้กระบวนการคัดกรองมวลกระดูกเป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพของคนไทยเหมือนกับการตรวจวัดความดัน จึงคิดค้นพัฒนาเครื่องคัดกรองมวลกระดูกเบื้องต้น ที่มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย โดยไม่อันตรายต่อสุขภาพและราคาถูก เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้กับโรงพยาบาล และสามารถกระจายโอกาสการคัดกรองได้ทั่วประเทศ” รศ.ดร.อนรรฆ กล่าว

ทั้งนี้ เครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ เป็นเครื่องที่ไม่ใช้รังสี แต่ใช้แสงพลังงานต่ำไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูล ตัวเครื่องขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และสามารถเคลื่อนย้ายได้ ปัจจุบันได้ดำเนินการผลิตเครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ จำนวน 10 เครื่อง ได้นำไปทดลองใช้ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี เครื่องมือนี้สามารถใช้งานการแพทย์ทางไกล เพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดที่ห่างไกล ในพื้นที่ ที่มีอินเทอร์เน็ต สามารถใช้งานได้ง่าย เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจวัดมวลกระดูกได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายอันสำคัญของทีมวิจัย

สำหรับกิจกรรม “NRCT Talk : รางวัลการวิจัยแห่งชาติ รางวัลสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2567” ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้นักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อมวลชน เพื่อร่วมช่วยกันเผยแพร่ผลงานวิจัยตลอดจนการผลิตและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัย ผลงานประดิษฐ์คิดค้น กิจกรรม ภารกิจ และผลการดำเนินงาน ของ วช. ที่เป็นประโยชน์ออกสู่สายตาประชาชน