วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567 โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหาร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

 

นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. ... รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการวิสามัญ เพื่อให้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สาม

 

คณะกรรมการวิสามัญฯได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติดังกล่าวจนจบโดยมีสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดเพื่อประกอบการพิจารณา พร้อมกำชับให้หน่วยงานรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณโดยประหยัดและคุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้คณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ให้ข้อสังเกตกับกทม. ประกอบด้วย 1. ควรประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงเหตุผลความจำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณโครงการงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 และ 2. ควรเร่งใช้จ่ายงบประมาณโครงการงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ให้เรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในด้านอื่น ๆ โดยดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 

 

ทั้งนี้ หลักการแห่งร่างข้อบัญญัติ จะตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ.... เป็นจำนวนไม่เกิน 23,488,692,200 บาท เป็นรายจ่ายพิเศษจ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้กทม.ใช้ในการรับมอบทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 และชำระค่างานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ตามโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ประชุมสภากทม.มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติดังกล่าว

 

นายนภาพล กล่าวว่า คณะกรรมการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติฉบับนี้ โดยยึดหลักความถูกต้องตามกฎหมาย คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นประโยชน์สุงสุดและเห็นชอบให้ผ่านงบประมาณนี้ โดยไม่มีคณะกรรมการฯสงวนความเห็นเพื่อวินิจฉัย

 

นายชัชชาติ กล่าวภายหลังการประชุมสภากทม. ว่า จะรับข้อสังเกตจากสภากทม.ไปดำเนินการ โดยวันพรุ่งนี้ (8ก.พ.67) จะมีการประชุมหารือกับสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกรอบชำระหนี้ไม่เกินวงเงินดังกล่าว เมื่อข้อบัญญัติเสร็จสมบูรณ์แล้วจะรายงานให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) รับทราบความคืบหน้าต่อไป เพื่อให้มท.ดำเนินการตามที่เห็นสมควร